หนังสือพิมพ์ Mainichi ของญี่ปุ่น รายงานว่าเครื่องบินที่กระทรวงการต่างประเทศจัดส่งไปอพยพพลเมืองญี่ปุ่นในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ศูนย์กลางแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ถึงอู่ฮั่นตั้งแต่ค่ำวานนี้ (28 มกราคม) และสามารถนำพลเมืองชาวญี่ปุ่น รวม 206 คน เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติฮาเนดะของญี่ปุ่นได้โดยปลอดภัย ช่วงเช้าวันนี้ (29 มกราคม 2563)
รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันว่า ผู้ที่ออกจากอู่ฮั่นทุกคน "ไม่มีอาการป่วย" และ "ไม่พบข้อมูลบ่งชี้ว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา" เพราะทางการได้ส่งแพทย์และพยาบาลไปพร้อมกับเที่ยวบินแรก เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและคัดกรองผู้อพยพด้วยตัวเองแล้ว
อย่างไรก็ตาม พลเมืองญี่ปุ่นที่เพิ่งเดินทางกลับจากอู่ฮั่นจะถูกสั่งห้ามออกนอกบ้านไปอีกระยะหนึ่ง และสมาชิกครอบครัวของผู้ที่เพิ่งกลับจากอู่ฮั่นก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปพื้นที่สาธารณะ หรือพื้นที่ที่มีประชาชนรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการแพร่กระจายของโรคจากคนสู่คน
ส่วนรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่า เครื่องบินลำแรกที่ส่งไปอพยพชาวอเมริกันตกค้างในเมืองอู่ฮั่น สามารถลำเลียงคนชุดแรกออกมาได้ทั้งหมด 240 คน มีทั้งเจ้าหน้าที่ทางการทูตและพลเรือนอเมริกัน โดยเครื่องบินดังกล่าวจะแวะที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอลาสกา และจะบินต่อไปยังเมืองออนแทริโอ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งก่อนหน้านี้สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ผู้ที่อพยพจากอู่ฮั่นทั้งหมด จะต้องถูกกักตัวต่ออีกอย่างน้อย 14 วัน เพื่อรอดูอาการให้แน่ใจว่าปลอดจากการติดเชื้อไวรัสอย่างแน่นอน จากนั้นจึงจะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้าน
ขณะที่เว็บไซต์ The Guardian รายงานเพิ่มเติมว่า สนามบินนานาชาติออนแทริโอ ซึ่งเป็นปลายทางของเที่ยวบินอพยพพลเมืองอเมริกันในครั้งนี้ ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่รัฐบาลต้องสั่งอพยพพลเมืองของตัวเองออกจากประเทศต่างๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่สนามบินแห่งนี้ได้ใช้งานในภารกิจลำเลียงชาวอเมริกันกลับประเทศ
นอกจากสหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่อพยพคนชุดแรกออกจากอู่ฮั่นได้แล้ว ยังมีอีกหลายประเทศที่เตรียมตัวอพยพพลเมืองของตนกลับ โดยสหภาพยุโรป (EU) ประสานกับรัฐบาลฝรั่งเศส เตรียมนำพลเมืองของอียูออกจากอู่ฮั่นด้วยเครื่องบินพาณิชย์ของฝรั่งเศสชุดแรก 2 ลำ ส่วนเกาหลีใต้ประเมินสถานการณ์ว่าน่าจะอพยพคนได้ภายในวันพรุ่งนี้
ขณะที่สก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ส่งหน้ากากอนามัยไปช่วยรัฐบาลจีน พร้อมประกาศว่าจะอพยพพลเมืองของตนในอู่ฮั่นเช่นกัน เพราะก่อนหน้านี้มีรายงานเยาวชนออสเตรเลียตกค้างอยู่ในอู่ฮั่นราว 100 คน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลออสเตรเลียอาจส่งคนไปกักกันโรคที่เกาะคริสต์มาส ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์พักพิงสำหรับผู้ขอลี้ภัย โดยภารกิจนี้ ออสเตรเลียได้ร่วมมือกับนิวซีแลนด์ และย้ำว่าจะช่วยเหลือพลเมืองของประเทศเกาะในแปซิฟิกด้วย
รัฐบาลจีนยังคงมาตรการควบคุมการเข้าออกและการเดินทางของประชาชนในเมืองอู่ฮั่น พื้นที่แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สื่อหลายสำนักเรียกมาตรการนี้ว่า "คำสั่งปิดเมือง" ซึ่งดำเนินต่อเนื่องกันมาตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม แต่จีนยังอนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปรายงานข่าวในพื้นที่ได้อยู่
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมืองอู่ฮั่นที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจและคมนาคมแห่งหนึ่งของจีน กลายสภาพแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง เพราะท้องถนนไม่มีคน แต่ในเวลากลางคืนจะมีการจัดแสดงไฟเป็นข้อความให้กำลังใจประชาชนที่อยู่ในเมือง เพื่อให้ต่อสู้กับสถานการณ์แพร่ระบาดกันอย่างเข้มแข็ง
ส่วนชาวเมืองอู่ฮั่นก็จะเก็บตัวอยู่ในบ้านกันเป็นส่วนใหญ่ ส่วนคนที่ออกมาเดินตามท้องถนนให้เห็นบ้างก็เป็นเพราะต้องออกมาซื้อข้าวของที่จำเป็น และชาวเมืองหลายคนก็บอกว่า ที่จริงแล้วเขาต้องกลับไปทำงานที่เมืองอื่นหลังสิ้นสุดช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่ตอนนี้ยังกลับไม่ได้ เพราะทางการจีนระงับการเดินทางไปแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: