นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าทำงานที่กระทรวงวันแรก พร้อมด้วยนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภรรยานายสมศักดิ์ รวมถึงนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ, นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย, นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี และนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร, โดยมีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรมและข้าราชการในกระทรวงให้การต้อนรับ ซึ่งทั้งคณะได้สักการะศาลพระพรหม ด้านหน้าอาคาร B ศูนย์ราชการ และไหว้พระพุทธรูปประจำกระทรวง ก่อนประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม
นายสมศักดิ์ กล่าวหลังการประชุมว่า ได้ฟังบรรยายสรุปของหน่วยงานต่างๆยอมรับว่ามีความสมบูรณ์แบบเพียง แต่อาจจะยังใช้ความสามารถของบุคลากรและหน่วยงานในกระทรวงได้ยังไม่เต็มที่ ซึ่งหากใช้เต็มศักยภาพมั่นใจว่าจะทำให้ประหยัดงบประมาณ และมีผลงานออกมาเป็นเชิงบวกได้อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังต้องมีการปรับปรุงบางส่วน โดยเฉพาะปัญหา"ผู้ต้องขังล้นคุก" มีมากกว่า 3 แสนรายทั่วประเทศ ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังในคดียาเสพติด อีกทั้งปัญหาเรือนนอนหรือห้องขังของเรือนจำไทยอยู่ที่ 1.4 ตารางเมตรต่อคน ขณะที่ตามหลักและมาตรฐานสากลต้องมีขนาด 2.5 ตารางเมตรต่อคน จึงจำเป็นต้องสร้างเรือนนอนให้เพียงพอ ควบคู่กับมาตรการอื่นๆ โดยหลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว จึงจะมีการพูดคุยเพื่อดำเนินการให้ชัดเจนอีกครั้ง
นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า จะไม่มีปัญหาในการทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม แม้ว่าเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือกระทรวงอื่นๆมาก่อน เพราะถึงอย่างไรก็เป็นผู้บริหารเหมือนกัน ซึ่งจะเข้าใจ ลักษณะการทำงานเพื่อให้ผลออกมาเป็นที่ต้องการของประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปและจะใช้เวลานิดหน่อยเพื่อการปรับตัว รวมถึงทำความเข้าใจในเรื่องของตัวบทกฎหมายต่างๆ
สำหรับกรณีคดีนางสาวแพรวา ที่ผู้สื่อข่าวถาม ถึงความล่าช้านายสมศักดิ์ยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมไม่ได้มีความล่าช้า แต่เหตุอาจเกิดจาก ส่วนอื่นและสำหรับกระทรวงยุติธรรม จะรับช่วงหลังจากศาลฎีกาตัดสินแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการสืบทรัพย์ ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ใช้กองทุนยุติธรรมชดใช้ก่อนนั้นไม่สามารถทำได้เพราะติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย โดยมองว่า คดีนี้ดูวุ่นวายเพราะมีโจทย์จำนวนมากซึ่งเหมือนเดินกันคนละทาง หากสามารถบูรณาการณ์กันได้ ทางกระทรวงก็มีช่องทางช่วยได้ง่าย สำหรับการเร่งบังคับคดีหรือนำที่ดินของจำเลยมาขายทอดตลาดนั้น สามารถเร่งรัดได้และจะพยายามทำให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังยืนยันด้วยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ยังอยู่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรมและไม่ได้ขึ้นกับสำนักนายกรัฐมนตรีตามที่มีกระแสข่าว เพียงแต่ที่ผ่านมามีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่บางหน่วยงาน อย่าง DSI หรือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีลักษณะงานคล้ายกัน จะมีผู้กำกับดูแลหลายคนได้ แต่ยังยืนยันไม่ได้แน่ชัดว่า DSI จะมีผู้กำกับดูแลกี่คนในรัฐบาลนี้ เพราะนายกรัฐมนตรียังไม่มีคำสั่งออกมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :