ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ปัดเอี่ยวปลด ผอ.ช่อง5 เผยทุกช่องวิเคราะห์ข่าวมากเกินไปทำให้เกิดปัญหาภาพรวมประเทศ ยกสงครามยูเครน-รัสเซียเตือนสติคนไทย ปัดตอบส่งคนไปดีล 'โทนี่' คุยศึกซักฟอก

วันที่ 29 มี.ค.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้หารือกันในหลายประเด็น ทั้งในเรื่องแหล่งน้ำ และการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งจะดำเนินการให้ชัดเจนภายในเดือน เม.ย. นี้ สิ่งที่รัฐบาลมุ่งหวังคือ พยายามทำอะไรก็ได้ ที่ดีต่อประชาชนและประเทศชาติ สร้างความยั่งยืน แค่คิดแล้วแค่พูดมันก็ง่าย แต่พอถึงเวลาทำ มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่พูดกันนัก บางเรื่องที่ทำสำเร็จไปแล้วก็มี แต่บางเรื่องก็ยังครึ่งๆ กลางๆ ติดปัญหาลากยาวมาหลายปี 

สำหรับข้อเรียกร้องเรื่องหวยราคาแพง ได้พยายามหามาตรการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการเฉพาะที่กำลังดำเนินการอยู่ คือการหาต้นตอว่าราคาแพงเกิดขึ้นจากตรงไหน ส่วนเรื่อง '5 เสือ กองสลาก' ที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มมาเฟียทำราคาหวยแพงนั้น ตนขอให้เลิกพูด เพราะยุติไปนานแล้ว เป็นมาตรการจ่ายตรงไปยังผู้รับโควตาให้รวบรวมกันเอง จึงควรแก้ปัญหาตรงจุดนั้น ไม่มีคำว่าโควตาพิเศษ แต่เป็นโควตาที่ให้มาอย่างเฉพาะเจาะจง ตามระเบียบของกองสลากใหม่ ตั้งแต่ตนเข้ามาเป็น คสช. แล้ว ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำ ขอให้อย่ามองเป็นการเมืองไปทุกเรื่อง 

ปัดถกรถไฟฟ้าสายสีเขียว-ปัดปลด ผอ.ททบ.5 

สำหรับการพิจารณาต่อสัมปทานสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของกรุงเทพมหานคร เพื่อขยายสัญญาสัมปทาน ให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชน กรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือ BTSC บริษัทในเครือ บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งจำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ออกไปอีก 30 ปี หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยังไม่มีการนำเข้าที่ประชุม ครม. ยังคงสอบถามคำตอบกันไปมาอยู่เพื่อให้เข้าใจร่วมกัน อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ อะไรที่เป็นข้อกฎหมายก็ต้องเคลียร์กันให้จบ แต่สิ่งสำคัญที่ตนเป็นห่วงคือ จะทำอย่างไรให้เดินรถได้ต่อไป เพราะประชาชนก็คาดหวังให้เดินรถเต็มทั้งสายบริหาร่วมกันยังไง ซึ่งนายกฯ ตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ โดยตอนนี้ กทม.กับกระทรวงคมนาคม กำลังหารือกันอยู่ พร้อมขออย่าให้เป็นประเด็นความขัดแย้งอีก 

ส่วนกรณี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เซ็นให้ พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ พ้นตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 โดยมีกระแสข่าวว่าการสั่งปลดครั้งนี้มาจากนโยบายการเสนอข่าวความขัดแย้งสงครามยูเครนกับรัสเซียนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยว ซึ่งตนมองว่าโทรทัศน์ทุกช่อง ออกข่าววิเคราะห์อะไรมากเกินไป จะทำให้เกิดปัญหาในภาพรวมของประเทศ ฉะนั้นเสนอข่าวได้ตามปกติ แต่ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดผลกระทบกับประเทศไทย บางเรื่องก็ไม่เหมาะจะไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะจะไม่เกิดประโยชน์ 

ประยุทธ์ 614000000.jpg

ยกสงครามรัสเซีย-ยูเครน เตือนสติคนไทย 

ส่วนปัญหาค่าครองชีพ พลังงานและสินค้าแพง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ครม. ได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองมาต่อเนื่องตลอดมา แต่การแก้ปัญหามีความซับซ้อน เพราะเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ประกอบกับสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ในฐานะที่ตนเป็นทหารมาก่อน จำเป็นจะต้องวางแผน ประเมินสถานการณ์ ว่าสงครามจะยืดเยื้อไปอีกนานหรือไม่ สร้างความเสียหายเท่าใด เพื่อจะได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้อนุมัติ 10 มาตรการในการช่วยเหลือประชาชนในปัญหาต่างๆ ไปแล้ว 

"อย่าลืมว่าทั้งหมดนี้ต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น และทุกคนก็ทราบดีว่างบประมาณของรัฐบาลก็ใช้ในการดูแลประชาชนมาเยอะ อุดหนุนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส มาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นอย่าลืมว่าถ้าเราทุ่มงบประมาณทั้งหมดไปกับปัญหาใดปัญหาหนึ่ง ปัญหาอื่นจะเกิดตามมาทันที เพราะมีอีกหลายกระทรวง หลายหน่วยงานที่ต้องใช้งบประมาณในภาพรวม จะตัดทั้งหมดก็ไม่ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า รัฐบาลก็ต้องการให้ปัญหาทุกอย่างยุติลงอย่างรวดเร็ว แต่บางเรื่องก็เกินการควบคุมของเรา ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นว่า ความขัดแย้งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในโลกใบนี้ จะประมาทไม่ได้ แม้ในภูมิภาคของเรา ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต จึงต้องเตรียมความพร้อมของเราไว้เหมือนกัน โดยเฉพาะความพร้อมของคนไทย 

"ผมไม่อยากให้ขัดแย้งอะไรกันมากหรอก ความคิดอาจมีไม่ตรงกันบ้าง แต่จะหาวิธีการปฏิบัติอย่างไรให้ดีที่สุด ต้องหันหน้ามาพูดกัน ด้วยเหตุผล และหลักการที่เข้าใจตรงกัน ถ้าต่างคนต่างพูดแล้วถือเป็นอารมณ์เหมือนกันทั้งหมด ไม่มีทางสำเร็จ ทุกเรื่อง กลับไปย้อนดูสิว่าสิ่งที่พูดกัน รัฐบาลทำไปแล้วหรือยัง ไม่มีอะไรสำเร็จ 100% หรอก ผมพูดได้ ผมอยู่มาหลายปีแล้ว" 

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า อาจมีการส่งคนไปพูดคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ และบัตรเลือกตั้งสองใบ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ตอบเพียงสั้นๆ ว่า "คุยได้เหรอ"