วันที่ 9 ต.ค. ธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้เรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดปฏิบัติการปูพรมกวาดล้างผู้มีอิทธิพลและอาวุธปืนเถื่อน ล่าสุดทราบว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ที่ได้นำกำลังตำรวจระดมกวาดล้างอาชญากรรม จับกุมผู้จำหน่ายและผู้ลักลอบใช้หรือพกพาอาวุธปืนเถื่อนและอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ รวมทั้ง "แบลงค์กัน” หรืออาวุธปืนดัดแปลง โดยปฏิบัติการใน 47 จังหวัด รวม 114 เป้าหมายทั่วประเทศ  

“ผมจึงขอขอบคุณ ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.จิรภพ ที่ได้ระดมกำลังกวาดล้างอาวุธปืนในครั้งนี้ด้วย ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าว เห็นผลชัดเจนเป็นรูปธรรมเพื่อเป็นการกวาดล้างปราบปรามไม่ให้มีการใช้อาวุธปืนก่อเหตุรุนแรงซ้ำ กรณีเยาวชน วัย 14 ปีหาซื้ออาวุธปืนดัดแปลงทางออนไลน์ มาก่อเหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้าชื่อดังจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตที่ผ่านมา” 

เมื่อถามว่า การแก้ปัญหาอาวุธปืนเถื่อน อาจเป็นแค่ปลายเหตุ ต้องประสานความร่วมมือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการ กวาดล้างไปถึงต้นตอผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังด้วยหรือไม่ ธนกร กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญต้องบูรณาการทุกหน่วยงานร่วมแก้ปัญหา ไม่เพียงแค่กรมการปกครองเท่านั้น ทั้งเรื่องการตรวจสอบภาษี เส้นทางการเงิน ของผู้มีอิทธิพลและคนรอบตัว ประสานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสรรพากรไปตรวจสอบ ทั้งอาณาจักรเครือข่ายอย่างละเอียด ซึ่งจะเป็นการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลที่มีประสิทธิภาพและวัดผลได้จริง 

“เรื่องนี้ผมขอสนับสนุนนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ที่รับผิดชอบเรื่องการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศตามที่นายชาดา ได้ชี้แจงต่อสภาฯไปว่าจะใช้ "โมเดลปราบกลุ่มแอลคาโปน” กลุ่มผู้มีอิทธิพลให้หายไปเหมือนที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากการกวาดล้างปราบปรามต้องทำพร้อมกันทั้งระบบและจี้ตรงจุดต้นตอของปัญหา คือการทำลายอาณาจักรเครือข่ายเส้นทางการเงินทั้งหมด กวาดล้างผู้มีอิทธิพลรายเดิม และสกัดการก่อกลุ่มผู้มีอิทธิพลรายใหม่” ธนกร ระบุ