พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้าการเตรียมพร้อมตรวจสอบการปลอมวุฒิการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่า นายสมชัย เป็นผู้ที่หวังดีกับบ้านเมือง เมื่อเห็นความไม่สุจริตหรือไม่ถูกต้อง จึงต้องเข้ามาให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเรื่องนี้กับกมธ. ป.ป.ช. เพื่อใช้ในการตรวจสอบวุฒิการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกับที่กมธ.กำลังดำเนินการอยู่ ส่วนกรณีที่ร.อ.ธรรมนัส แจ้งว่ายังไม่ให้ความสำคัญกับการเข้ามาชี้แจงกับกมธ.ป.ป.ช.สภาฯ
อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังไม่ได้เชิญร.อ.ธรรมนัส มาให้ข้อมูล เพราะตามขั้นตอนต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน จากนั้นจึงเชิญผู้ที่ถูกร้องมาให้ถ้อยคำ นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังมีเรื่องยาเสพติดที่กำลังดำเนินการควบคู่ และกำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ โดยขณะนี้เป็นช่วงปลายปีงบประมาณ และความจริงคือช่วงที่ต้องเริ่มต้นงบประมาณใหม่ แต่การพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 ยังไม่เข้าสู่สภาฯ ทำให้การนำงบประมาณมาใช้ก็ลำบาก ทางกมธ.เราก็แจ้งไปว่าหากยังใช้งบประมาณไม่ได้ ก็ขอใช้เงินส่วนตัวตนออกไปก่อนก็ได้ เช่น การเดินทางไปต่างประเทศของคณะทำงาน เพราะช่วงที่ตนเป็น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หากใครไปราชการก็ยืมเงินตนไปก่อน แล้วค่อยนำใบเสร็จมายื่นทีหลัง
นอกจากนี้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่าจำเป็นต้องหาข้อมูลจากต่างประเทศแน่นอน โดยเฉพาะคำพิพากษาของศาลที่ออสเตรเลีย รวมไปถึงเรื่องวุฒิการศึกษาด้วย ขณะนี้กำลังแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษเพื่อส่งเรื่องไปที่นั้น ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ หาก ร.อ.ธรรมนัส ไม่ชี้แจงสังคมให้ชัดเจน ก็เป็นเรื่องของเขา แต่เรายืนยันว่าจะดำเนินเรื่องอย่างเร็วที่สุด ซึ่งกมธ.ได้ประชุมแล้ว 4 ครั้ง และคิดว่าวันนี้ อาจจะทำเรื่องเพื่อขออนุมัติ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพิ่มเป็น 3 ชุด เพราะคณะอนุกรรมาธิการ 2 คณะ ถือว่าไม่เพียงพอ
ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากรณ์ อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เข้าไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการค้าปริญญาปลอมและการได้มาซึ่งปริญญาที่ไม่มีมาตรฐาน ซึ่งได้จัดทำเป็นเอกสาร Power Point จำนวน 28 หน้า ต่อ คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร โดยข้อมูลมีสาระสำคัญครอบคลุม 5 ประเด็นคือ
1.) กรณีการใช้มหาวิทยาลัยปลอม
2.)วารสารนักล่า ที่เพียงจ่ายเงินก็ได้ลงวารสาร ซึ่งมีอยู่หลายพันฉบับ
3.)การประเมินวิทยฐานะเทียบเท่าแบบง่ายๆ และมีนักการเมืองอีกหลายคน ใช้การประเมินลักษณะนี้นอกเหนือจากร้อยเอกธรรมนัส
4.)ปริญญาบัตรปลอม หลอกลงผู้ที่ไม่รู้
5.) เปิดโปงขบวนการค้าปริญญาในประเทศไทย
โดยนายสมชัย ยืนยันว่า เบื้องต้น มองว่าธรรมนัสและนักการเมืองอีกหลายคน ที่อาจมีและใช้วุฒิการศึกษาปลอมเป็น ถือเป็นผู้เสียหายหรือถูกหลอกลวง จึงควรไปแจ้งความดำเนินคดีตามฎหมาย แต่หากรู้อยู่แล้วและยังใช้วุฒิการศึกษาปลอมมาชี้แจงต่อสาธารณะหรือใช้ประโยชน์จากวุฒิการศึกษาปลอมก็จะกลายเป็นผู้ต้องหา ซึ่งนายสมชัย ใช้เวลากว่า 2 เดือนในการตรวจสอบและหาข้อมูลเรื่องนี้ที่สืบค้นยาก เพราะต้องมีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ เนื่องจากเครือข่ายผู้กระทำความผิด ไหวตัวเร็วและลบข้อมูลออกจากระบบคอมพิวเตอร์จึง ต้องใช้เทคนิคในการเจาะหรือดึงเอาข้อมูลที่ถูกลบออกไปแล้วกลับคืนมาด้วย