นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กระบุกรณีกระแสข่าวที่มีผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี 4 เขตของ 4 พรรคการเมืองเตรียมยื่นหลักฐานต่อกกต. เพื่อเอาผิดตนเองและขอให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตนขอให้ข้อมูลจากคนบอกเล่าของพยาน และข้อมูลที่ผู้สมัคร ส.ส.ฝ่ายตรงข้าม 4 พรรคมาประกอบกัน เนื่องจากตนไม่ได้อยู่ในขณะเกิดเหตุและผู้สมัครฝ่ายตรงข้ามทั้ง 4 พรรคก็ไม่มีผู้ใดอยู่ในขณะเกิดเหตุ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
เหตุการณ์เกิดที่หน่วยเลือกตั้งบริเวณสถานีอนามัยตำบลมาบไผ่ ผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม 4 พรรคกล่าวหาว่ามีคนของพรรคพลังประชารัฐไปบอกเบอร์ผู้สมัครฯหน้าหน่วย ซึ่งข้อเท็จจริงแรกคือ ขณะเกิดเหตุฝนตก กรรมการประจำหน่วยดังกล่าวจึงต้องย้ายป้ายที่ตรวจลำดับที่ในการลงคะแนนใช้สิทธิกับป้ายประชาสัมพันธ์ผู้สมัครฯเข้าไปในร่ม เพื่อไม่ให้เปียกฝน ผู้มาใช้สิทธิซึ่งมีจำนวนมากจึงต้องย้ายเข้าไปตรวจลำดับบนอนามัยตามป้ายที่ย้ายหนีฝนไปก่อน จึงลงมาใช้สิทธิในคูหาที่อยู่ด้านล่าง ขณะนั้นผู้ถูกกล่าวหา จึงไปช่วยบอกลำดับแก่ผู้สูงอายุที่มาใช้สิทธิเพียง 2 คนในขณะนั้น ไม่ได้บอกเบอร์ผู้สมัครฯคนใด
พยานในที่เกิดเหตุทุกคน ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 2 คนชื่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วย และกรรมการประจำหน่วยซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายยืนยันว่า ผู้ถูกกล่าวหาคือนายบอลไม่ได้กระทำความผิดดังที่ผู้สมัครฯฝ่ายตรงข้าม 4 พรรคกล่าวหาอย่างแน่นอน ขณะที่ทีมงานผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยนำตัวนายบอลไปสถานีตำรวจภูธรอำเภอบ้านบึง หลังจากนั้นจึงค่อยเรียกพรรคอื่นๆอีก 3 พรรคมาสมทบเพื่อกดดันให้เกิดผลที่ฝ่ายตัวเองต้องการ และตำรวจก็ได้สอบปากคำพยานทุกปากแล้ว กดดันให้กักตัวนายบอลจนเวลาเลยเที่ยงคืนของวันดังกล่าว
เมื่อได้ข้อเท็จจริงก็ปล่อยตัวพยานทุกปากไป ฝ่ายตรงข้ามเมื่อไม่ได้ผลดังใจ ก็พาลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าข้าง หลังจากนั้นฝ่ายตรงข้ามก็ไปร้องเรียนที่ กกต.เขตฯกกต.จังหวัด อำเภอบ้านบึง ศาลยุติธรรม ซึ่งทุกหน่วยงานคงเห็นข้อเท็จจริงปรากฎอยู่ ผลก็ไม่ได้คืบหน้าก็เป็นเพียงเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบต่อไป แต่น่าสงสัยว่าผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม 4 พรรคมีวัตถุประสงค์ใดกันแน่ เพราะเมื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ถ้าอยากได้ความยุติธรรมก็ทำตามขั้นตอน ซึ่งตนเห็นด้วยไม่มีปัญหาใดๆ แต่กลับนำนักข่าวจำนวนมากไปทำข่าวเบี่ยงเบนประเด็นให้ตนเสียหายและลงข้อมูลพาดหัวให้คนสับสน สงสัยในการเลือกตั้งฯที่เกิดขึ้น ว่ามีการทำผิดกฎหมายซึ่งจริงๆไม่ได้เป็นเช่นนั้น รวมทั้งร้องเรียนมายัง กกต.กลาง โดยเบี่ยงเบนว่าเป็นการซื้อเสียง จูงใจ แต่ข้อเท็จจริง ผู้ถูกกล่าวหาบอกเพียงลำดับลงคะแนนผู้สูงอายุเท่าน้ันไม่ได้ชี้นำใดๆ
นายสรวุฒิ ยืนยันว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ชื่อนายบอลดังกล่าวไม่ได้เป็นทีมงานหาเสียงของตและนายบอลทำงานประจำอยู่ในโรงงาน และไม่ได้วานให้นายบอลไปทำผิดกฎหมาย โดยสรุปผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม 4 พรรคที่ร่วมกันนี้ เจตนาจะหาข้ออ้างให้ตัวเองว่าพรรคอื่นโกง ทั้งที่เขตนี้ผู้ชนะไม่ได้ซื้อเสียง แต่คนแพ้ซื้อเสียง ก็ยังแพ้ คนในเขตนี้ทราบดีครับ รวมทังพยายามให้เสียชื่อเสียง โดยเบี่ยงเบนประเด็น พาดหัวข่าวว่าจับหัวคะแนนได้ มี การสารภาพ ซึ่งไม่จริงตามข้อมูลที่ชี้แจงมา
"พยายามโยงว่าผมเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐต้องถูกยุบ ซึ่งถ้าทราบข้อกฎหมายดี จะพบว่าผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆเลย และมูลเหตุก็ไม่ใช่การกระทำผิดให้มีผลจนจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ได้" นายสรวุฒิ ระบุ
รายงานข่าวระบุว่า ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 4 ประกอบด้วยพรรคประชาธิปัตย์ พรรคอนาคตใหม่ พรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทยจะนัดหมายไป กกต. เวลา 13.00 น. วันที่ 1 เม.ย. เพื่อยื่นหลักฐานเอาผิดนายสรวุฒิ และขอให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ