มีรายงานว่า เมื่อค่ำวานนี้ 26 เม.ย. ที่ จ.นครศรีธรรมราช ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค และประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลงพื้นที่หาเสียงที่อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช โดยเปิดเวทีปราศศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากนั้น นางอารีย์ ห้องสีปาน มารดา ธนกร ยังได้เดินทางมาให้กำลังใจด้วย
ธนกร ปราศรัยว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ มีนโยบายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม และยังมีอีกหลายโครงการที่จะต้องทำต่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ตามนโยบาย “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” ทั้งสานต่อนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีผู้ใช้สิทธิจำนวน 14.6 ล้านคน เป็นบัตรสวัสดิการพลัสเพิ่มเงินเป็น 1,000 บาท การปล่อยกู้ฉุกเฉิน 10,000 บาท เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาท ค่าตอบแทน อสม. 2,000 บาท กองทุนฉุกเฉินประชาชน 30,000 ล้านบาท ทั้งหมดอยู่ที่พ่อแม่พี่น้องชาวนคร ที่จะร่วมกำหนดอนาคตเพื่อจะสร้างความมั่งคั่งต่อไป
ธนกร ปราศรัยอีกว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอโอกาสชาวนครศรีธรรมราช วันที่ 14 พ.ค.เข้าคูหากาให้ทั้งคน ทั้งพรรค หมายเลข 22 ให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กลับมาสานต่อนโยบายเดิม และเพิ่มเติมนโยบายใหม่ ขอให้เชื่อมั่นและมั่นใจต่อตัว พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะนำมาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศและพร้อมจะทำงานต่อด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดมั่นใน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ที่ให้โอกาสลูกชาวบ้าน ลูกหลานชาวนครศรีธรรมราชอย่างตนเป็นรัฐมนตรี
ธนกร กล่าวว่า ในส่วนนโยบายเงินดิจิทัล 1,000 บาท พรรคเพื่อไทย ทำไม่ได้จริงหลอกชาวบ้านหวังเข้าสู่อำนาจเท่านั้น เพราะไม่มีงบประมาณ และที่รายงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) 560,000 ล้าน จาก 4 แหล่งไม่ว่าจะเป็น 260,000 ล้านบาท จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่ก็มาโจมตีว่า พล.อ.ประยุทธ์ บริหารล้มเหลว 100,000 ล้านบาท จากการเก็บภาษีแว๊ตอดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ยืนยันว่าเก็บได้เต็มที่ไม่เกิน 38,000 ล้านบาท 130,000 ล้านบาทจากการบริหารงบประมาณก็คงไปตัดงบกระทรวงซึ่งทำยาก และ 90,000 ล้านบาทจากงบสวัสดิการที่ซ้ำซ้อนก็อาจจะมาตัดงบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตนอยากจะบอกพี่น้องคนไทยทั้งประเทศว่านักธุรกิจมาเล่นการเมือง ระวังซ้ำรอยอดีตผู้นำของพรรคเพื่อไทย