สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งปัจจุบันทรงมีพระชนม์ 87 พรรษา และทรงกำลังประสบปัญหาด้านสุขภาพและการเคลื่อนไหวเมื่อเร็วๆ นี้ เสด็จเป็นประธานในพิธีที่เรือนจำเรบิบเบียในกรุงโรม โดยล้างเท้าของผู้หญิงแต่ละคนจากรถเข็นของพระองค์ โดยจากรายงานระบุว่า หญิงหลายคนหลั่งน้ำตาขณะสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงล้างเท้าและจุมพิตเท้าของพวกเธอ
พิธีล้างเท้าเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีก่อนวันอีสเตอร์ เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ไบเบิลที่กล่าวถึงการล้างเท้าสาวกของพระเยซูคริสต์ในคืนก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ทรงได้รับการเลือกตั้งเป็นประมุขแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงนำพิธีล้างเท้านอกดินแดนวาติกัน และทรงเฉลิมฉลองวันก่อนอีเตอร์ด้วยการล้างเท้านักโทษ ผู้ลี้ภัย และผู้พิการ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงล้างเท้าของผู้หญิงและมุสลิม อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์ว่าการล้างเท้าสตรี 10 คนในครั้งนี้อาจเป็นครั้งแรกที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงล้างเท้าให้สตรีโดยเฉพาะในระหว่างพิธี
นาเดีย ฟอนตานา ผู้อำนวยการเรือนจำหญิงในกรุงโรมซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธี กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่สมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จเข้ามาในเรือนจำของพวกเขา ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมนักโทษอยู่ 360 คน และเด็กอีก 1 คน
ในช่วงปีแรกๆ ของการดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้ทรงเปลี่ยนกฎของคริสตจักรโรมันคาทอลิก เพื่ออนุญาตให้สตรีเข้าร่วมการประกอบพิธีกรรมอย่างเป็นทางการได้ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่พบกับแรงต่อต้านในวาติกันเอง
ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 อดีตสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ก่อน ทรงล้างเท้าของผู้ชายเท่านั้น และต่อมาได้ทรงเปลี่ยนไปล้างเฉพาะเท้าของนักบวชด้วยกันเท่านั้น
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงไม่เข้าร่วมพิธีมิสซาของพระองค์โดยไม่คาดคิดในระหว่างพิธีมิสซาปาล์มซันเดย์ที่นครวาติกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าพระองค์จะทรงสามารถเป็นประธานในพิธีนี้ได้ และต่อมาจะทรงขึ้นรถโป๊ปโมบิลเพื่อเสด็จไปโดยรอบพิธี ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล โดยตลอดช่วงฤดูหนาว สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเข้ารับการรักษาโรคหลอดลมอักเสบ โรคหวัด และไข้หวัดใหญ่
พิธีล้างเท้าเป็นจุดเริ่มต้นของสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในปฏิทินของคริสตจักรโรมันคาทอลิก เนื่องจากคริสตชนทั่วโลกจะได้เตรียมเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์
ที่มา: