คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2562 เวลาประมาณ 14.30 น. ขณะมีการสอบ GAT/PAT ภายในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ จำเลยทั้ง 22 คนร่วมกันกระทำความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป เพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายรวม 15 คน ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ของผู้เสียหาย 2 ราย ร่วมกับข่มขืนใจผู้อื่นฯ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด และจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานกระทำอนาจาร
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง 2 คน ที่เหลือให้การภาคเสธ รับว่าเข้าไปในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ บางคนปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมกับจำเลยคนอื่น บางคนปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้กำลังประทุษร้าย ทั้งหมดปฏิเสธข้อหามั่วสุมเพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง แต่ละคนรับสารภาพบางข้อหาแตกต่างกัน จำเลยทุกคนยกเว้นจำเลยที่ 16 รับว่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด แต่ระหว่างสืบพยาน จำเลยรับสารภาพตามฟ้องเพิ่มอีก 4 คน รวมรับสารภาพตามฟ้อง 6 คน และผู้เสียหายรวม 4 ราย ยื่นคำร้องขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
ศาลสรุปความว่า จำเลย 6 คนที่ให้การรับสารภาพ มีความผิดตามฟ้อง จำเลยที่ไม่มีพยานโจทก์เบิกความถึง 6 คน ทั้งไม่ได้ข้อเท็จจริงว่าร่วมกับจำเลยคนอื่นในลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ปรากฏว่าถูกชี้ตัวจากผู้เสียหายคนใด คงมีเพียงภาพจากกล้องวีดิโอวงจรปิดว่าเข้าไปภายในโรงเรียน จึงฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิดในข้อหาอื่นยกเว้นข้อหาบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดที่ให้การรับสารภาพเท่านั้น คงเหลือจำเลยอีก 10 คน ซึ่งมีพยานโจทก์เบิกความยืนยันในชั้นศาล สอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวน บันทึกการชี้ตัวผู้ต้องหา และบันทึกการชี้ตัวของพยานซึ่งได้กระทำในทันทีทันใด
เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยที่รับสารภาพ 6 คน และที่ฟังได้ความดังกล่าวอีก 10 คน รวม 16 คน ได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ตั้งแต่ทำร้ายพนักงานรักษาความปลอดภัย ทำร้ายผู้อำนวยการโรงเรียน ขึ้นไปบนอาคาร 3 ขับไล่ครูคุมสอบและนักเรียนให้ออกจากห้องสอบ ทำร้ายครูคุมสอบและนักเรียน รวมถึงทำลายทรัพย์สินของโรงเรียนและผู้เสียหาย อันเป็นการกระทำเพื่อไปสู่เจตนาร่วมกันของจำเลยทั้งหมดคือการก่อความวุ่นวายขึ้นภายในโรงเรียนเพื่อขัดขวางการสอบ เพื่อตอบโต้ที่จำเลยทั้ง 16 คนไม่สามารถใช้เครื่องเสียงในงานบวชได้
เมื่อพิจารณาพฤติการณ์แวดล้อมประกอบแล้ว จำเลยทั้ง 16 คน อยู่ภายในงานบวชด้วยกัน แต่งกายลักษณะเดียวกัน เดินไปที่เกิดเหตุพร้อมกันและในเวลาใกล้ชิดกัน ต่างกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน และกลับออกจากที่เกิดเหตุในเวลาใกล้ชิดกัน จึงฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 16 คน เป็นตัวการร่วมกัน
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 16 คน ฐานร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย, ฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด เมื่อเพิ่มโทษจำเลยที่มีประวัติการกระทำความผิด และลดโทษที่ให้การรับสารภาพในแต่ละข้อหาแยกกันไปแล้ว จำเลยแต่ละคนได้รับโทษจำคุกดังนี้
จำเลยที่ 1 และที่ 18 จำคุกคนละ 15 ปี 11 เดือน ,จำเลยที่ 2 จำคุก 17 ปี 5 เดือน , จำเลยที่ 3 จำคุก 13 ปี 2 เดือน 15 วัน, จำเลยที่ 4 ที่ 10 ที่ 12 และที่ 15 จำคุกคนละ 18 ปี 11 เดือน, จำเลยที่ 7 และที่ 9 จำคุกคนละ 13 ปี 7 เดือน 10 วัน , จำเลยที่ 11 จำคุก 13 ปี 10 เดือน 15 วัน , จำเลยที่ 13 จำคุก 11 ปี 10 เดือน 15 วัน ,จำเลยที่ 14 จำคุก 13 ปี 6 เดือน 20 วัน , จำเลยที่ 17 จำคุก 19 ปี 3 เดือน
จำเลยที่ 19 จำคุก 14 ปี 10 เดือน 22 วัน , จำเลยที่ 20 จำคุก 16 ปี 4 เดือน 22 วัน , จำเลยที่ 5 ที่ 6 ที่ 8 ที่ 21และที่ 22 จำคุกคนละ 2 เดือน และปรับคนละ 2,500บาท , โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปี , ให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ที่ 7 ที่ 9 ถึงที่ 15 และที่ 17 ถึงที่ 20 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โรงเรียนจำนวน 35,400 บาท และแก่ผู้เสียหายที่ 16 จำนวน 56,142.50 บาท ให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ที่ 7 ที่ 10 และที่ 12 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายที่ 10 จำนวน 35,737บาท และให้จำเลยที่ 15 และที่ 17 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายที่ 12 จำนวน 55,352.50 บาท ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 16 ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง