ไม่พบผลการค้นหา
'โจ ไบเดน' ทำตามสัญญาตอนหาเสียง ลงนามคำสั่งพิเศษยกเลิกคำสั่งสมัยทรัมป์ ที่ห้ามบุคคลข้ามเพศรับราชการกองในกองทัพสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามคำสั่งพิเศษของฝ่ายบริหาร เมื่อ 25 ม.ค. ลบล้างคำสั่งอันเป็นข้อถกเถียงอย่างหนักของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามบุคคลข้ามเพศเข้ารับราชการในกองทัพสหรัฐฯ โดยคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีไบเดน นับเป็นการทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ตอนหาเสียงต่อกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ

รายงานระบุว่า ปธน.ไบเดน ลงนามคำสั่งดังกล่าวภายในห้องทำงานรูปไข่ ท่ามกลางสักขีพยาน อาทิ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี, พล.อ ลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหม, และ พล.อ มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม 

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวช่วงก่อนลงนามคำสั่งว่า "สิ่งที่ผมจะทำจากนี้ คือการทำให้ชาวอเมริกันทุกคน ทุกเพศที่มีความสามารถ รับใช้ประเทศชาติในฐานะคนในเครื่องแบบได้"


"มันง่ายมาก หากจะทำให้อเมริกามีความปลอดภัยมากขึ้น เมื่อทุกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม สามารถรับราชการทหารได้อย่างเปิดเผย และภาคภูมิใจ เจ้าหน้าที่ข้ามเพศ จะไม่เสี่ยงถูกปลดหรือถูกย้ายด้วยเหตุผลอัตลักษณ์ทางเพศอีกต่อไป" ไบเดน ระบุข้อความผ่านทวิตเตอร์

เมื่อปี 2559 สมัยประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้ลงนามคำสั่งที่เปิดกว้างให้รับบุคคลข้ามเพศรับราชการ รวมถึงได้รับการดูแลทางการแพทย์หากประสงค์การแปลงเพศ แต่ต่อมาในปี 2560 สมัยประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกคำสั่งระงับคนข้ามเพศเข้ารับราชการทหาร โดยอ้างเหตุผลว่า เพนตากอนต้องให้ความสนใจกับการยกระดับศักยภาพกองทัพ จึงไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายรวมถึงความยุ่งยากที่เกิดขึ้นจากการรับบุคคลข้ามเพศเข้าทำงานในกองทัพ อย่างไรก็ดี สมัยทรัมป์ยังคงอนุญาตให้บุคคลข้ามเพศที่เข้ารับราชการอยู่ก่อนแล้ว ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้

ภายหลังลงนาม พล.อ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหม แถลงการณ์ว่า เขาสนับสนุนความเคลื่อนไหวดังกล่าว และให้เพนตากอนเร่งดำเนินการในทันที เพื่อรับประกันว่าบุคคลข้ามเพศจะมีสิทธิ์เข้ารับราชการทหาร

ด้าน อัลฟอนโซ ดาวิด ประธานของ Human Rights Campaign องค์กรเพื่อสิทธิพลเมืองของชาว LGBTQ แสดงท่าทีว่า "กองทัพอันเกรียงไกรที่สุดในโลก ต้องมีความพร้อมทางค่านิยมเหนืออคติ และมีคุณสมบัติเหนือการถูกเลือกปฏิบัติ"

ที่มา : VOA , NYTimes