ไม่พบผลการค้นหา
'สว.ตวง' เชื่อรัฐบาลหาทางลง เหตุรู้อยู่แล้ว พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน ส่อล่มที่ศาล รธน. ถามจะอธิบายอย่างไรว่าประเทศมีวิกฤต มองที่ผ่านมากฤษฎีกาไม่เคยชี้อะไรทำไม่ได้

วันที่ 9 ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา ตวง อันทะไชย สว. กล่าวถึงกรณีที่ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 

โดย ตวง ระบุว่า ที่ผ่านมา การออก พ.ร.บ.เงินกู้ในลักษณะนี้ไม่เคยประสบความสำเร็จ ตั้งแต่สมัยรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งสุดท้ายเรื่องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ การออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ครั้งนี้ของรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน ก็เชื่อว่าจะเป็นเช่นเดียวกัน 

ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลจะต้องอธิบายให้ได้เป็นอันดับแรกก็คือเรื่องของประเทศไทยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอย่างไร เพราะถ้าดูจากตัวเลขงบประมาณ ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต อีกทั้งนายกรัฐมนตรีได้เดินสายไปเชิญชวนทุกประเทศทั่วโลกมาลงทุน แต่มาบอกคนในประเทศว่า เรากำลังวิกฤต 

อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากสถานการณ์ช่วงปีใหม่ที่มีการเดินทางสัญจรไปมาของประชาชนกลับภูมิลำเนาพบว่ามีความคึกคักเป็นอย่างมาก สามารถอธิบายปรากฏการณ์ได้ว่าไม่ใช่ช่วงวิกฤตของประเทศ ไม่เหมือนช่วงสถานการณ์โควิด-19 หรือช่วงภาวะสงคราม และส่วนตัวมองว่าตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ปกติ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ด้วยวิธีอื่น

“มันยากที่จะบอกประเทศที่ปกติให้วิกฤต ถามหน่อยว่าจะบอกว่าประเทศเราวิกฤตเรื่องอะไร วิกฤต เศรษฐกิจหรือการเมือง เพราะหลังการเลือกตั้งผ่านไปแล้วผมว่ามันดาวน์ลง เป็นธรรมชาติทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม เราอยู่ในภาวะปกติธรรมดา เหมือนกับประเทศในภูมิภาคเอเชียและอาเซียน เรากำลังเป็นประเทศก้าวไปข้างหน้า ถ้าเราจะบอกว่าประชาชนเดือดร้อน ลำบาก เราจะใช้เงินเข้าไปให้เกิดการหมุนของเงินเป็นเรื่องที่ต้องอธิบายยากพอสมควร” ตวง กล่าว

ตวง กล่าวว่า การตีความตามความเห็นกฤษฎีกา ไม่ได้เป็นการบอกตรงๆ ซึ่งส่วนตัวมองว่ากฤษฎีกาฉลาด พร้อมขอให้ย้อนกลับไปดูความเห็นของกฤษฎีกาในอดีตในทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่เคยบอกว่า โครงการไหนทำไม่ได้ แม้แต่การเขียนจดหมาย กฤษฎีกาก็จะไม่บอกว่าผิดหรือถูก อยู่ที่คนบริหารราชการแผ่นดินว่า จะใช้วิจารณญาณอย่างไร จึงอยากฝากไปยังรัฐบาลว่า ให้ยอมรับความจริง และทบทวน

ตวง ยังยกตัวอย่างโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ที่กฤษฎีกาก็ไม่ได้บอกว่าผิด ทั้งนี้หากรัฐบาล เศรษฐา จะเดินหน้าต่อ เชื่อว่าเรื่องจะไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีผู้ยื่นเรื่องร้องต่อศาลให้วินิจฉัย ทั้งฝ่ายค้านหรือภาคประชาชน และศาลเคยวินิจฉัยเรื่องเหล่านี้มาแล้ว 

"รัฐบาลอาจจะรู้อยู่แก่ใจว่า เป็นเรื่องยาก และอาจจะมีธง หรืออาจเป็นข้ออ้างเพื่อเดินหน้าต่อในทางการเมือง เพราะทุกเรื่องต้องมีทางลง เห็นใจรัฐบาลเหมือนกันว่าจะลงอย่างไร เพราะประกาศตั้งแต่หาเสียง ขึ้นอยู่กับว่าจะลงอย่างไร ให้มีเกียรติภูมิ มีศักดิ์ศรีและสง่างาม ถ้าลงไม่ได้ในอดีตมีทางที่คนเคยลงคือไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคำตอบก็รู้อยู่แล้ว" ตวง กล่าว