นายอุตตม สาวนายน เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการคลัง ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เร่งกำหนดมาตรการช่วยกลุ่มฐานรากที่มีมากกว่า 10 ล้านคนในประเทศ เพื่อรองรับความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่กำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายใน โดยเบื้องต้นให้กำหนดเป็นมาตรการเชิงแนวคิด 'ขับเคลื่อน พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก' ซึ่งหวังผลระยะยาวและต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงการสนับสนุนสินเชื่อ เงินทุน หรือ กองทุนหมู่บ้านเท่านั้น โดยจะต้องยึดโยงตั้งแต่ต้นทาง เพิ่มมูลค่าสินค้า ไปจนถึงการท่องเที่ยวให้เชื่อมโยงกัน เนื่องจากที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานดำเนินการเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนเท่านั้น
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานกลับไปกำหนดมาตรการที่จะดำเนินการออกมาคร่าวๆก่อน ซึ่งในวันที่ 21 ก.ย.นี้ จะมีการนัดประชุมใหญ่เพื่อเปิดให้นำเสนอโครงการ และร่วมสรุปเชิงมาตรการที่จะดำเนินการออกมาว่าจะมีรูปแบบใดบ้าง ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
ส่วนประเด็นที่เงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 ปี 6 เดือน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังติดตามดูแลใกล้ชิด ส่วนจะมีมาตรการออกมาช่วยดูแลค่าเงินบาทหรือไม่นั้น มองว่าเป็นกลไกและหน้าที่ของ ธปท. ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกแน่นอน