ไม่พบผลการค้นหา
สำนักข่าววีโอเอทำรายงานพิเศษเกี่ยวกับผลกระทบต่อเด็กผู้หญิงที่ถูกบังคับแต่งงานทั่วโลก เพื่อให้สังคมร่วมมือกันยุติการแต่งงาน

องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟระบุว่า ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่มีชีวิตในปัจจุบันประมาณ 650 ล้านคนแต่งงานก่อนอายุ 18 ปี คิดเป็น 17 เปอร์เซ็นต์ของประชากรผู้หญิงทั้งหมด

สำนักข่าววีโอเอได้ทำสารคดีรายงานพิเศษเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นเด็กผู้หญิงที่แต่งงานตั้งแต่เด็ก เพื่อให้มองเห็นปัญหาการแต่งงานเด็กอย่างรอบด้าน ทั้งสาเหตุที่บีบบังคับให้เด็กต้องแต่งงาน รวมไปถึงผลกระทบที่ตามมาจากการแต่งงานตั้งแต่เด็ก


"ฉันสูญเสียวัยเด็กของฉัน ฉันรักโรงเรียนและการไปโรงเรียน แต่พวกเขาไม่ให้ฉันไป"


โซมายา หญิงสาวชาวอัฟกานิสถานเล่าว่า พ่อเธอขายเธอเป็นเงินราว 100,000 บาทให้ไปแต่งงานกับลูกของญาติ โดยเธอถูกบังคับให้แต่งงานตอนอายุ 13 ปี เพียง 10 วันก่อนจะสอบปลายภาคของเกรด 7 และเมื่อเธอขอกลับไปเรียนต่อ สามีและพ่อแม่สามีก็ทำร้ายร่างกายเธอ พร้อมบอกว่า พวกเขาไม่อนุญาตให้เธอไปโรงเรียน เพราะจะไม่มีคนทำงานบ้าน

ปัจจุบัน โซมายาหย่ากับสามีที่ทุบตีเธอแล้ว และกลับมาอยู่บ้านกับแม่เย็บผ้าหารายได้ ส่วนพ่อของเธอถูกจำคุก 2 ปีจากการบังคับให้เธอแต่งงาน แต่เด็กผู้หญิงอีกหลายคนทั่วโลกที่ยังต้องทนทุกข์กับการแต่งงานเด็ก


"ฉันคงไม่ต้องมาเจอเรื่องทั้งหมดนี้ เพียงเพราะความผิดพลาดของพ่อแม่ฉัน"


มาฮี หญิงสาวชาวบังกลาเทศก็คล้ายกับโซมายา เธอกล่าวว่า เมื่อถูกบังคับให้ต้องแต่งงาน เธอก็ไม่ได้เรียนหนังสือ สามีของเธอก็ไม่สนับสนุนให้เรียนหนังสือต่อ และเมื่อสามีของเธอทิ้งไป ทำให้ชีวิตต้องลำบากมาก เธอกล่าวว่า "ตอนนี้ฉันคิดแต่ว่าถ้าฉันได้เรียนต่อ ฉันจะไม่ถูกคนอื่นคุกคามมากเท่าตอนนี้ ฉันจะได้งานดีๆ ถ้าฉันได้เรียนหนังสือ สามีก็อาจจะไม่ทิ้งไป ถ้าฉันเรียนจบ ฉันก็คงไม่ต้องมาเจอเรื่องทั้งหมดนี้ เพียงเพราะความผิดพลาดของพ่อแม่ฉัน เพราะฉันแต่งงาน นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ชีวิตฉันเป็นแบบนี้"


แม้คนที่แต่งงานตั้งแต่เด็กจำนวนมากจะอยู่ในประเทศยากจน แต่การแต่งงานก่อนอายุ 18 ปีไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในบางทวีป บางศาสนาหรือกลุ่มชาติพันธุ์ แต่เป็นปัญหาสากลที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศยากจน ประเทศกำลังพัฒนา และประเทศร่ำรวย


ในมลรัฐมิสซูรีของสหรัฐฯ อนุญาตให้เด็กอายุ 16 ปีแต่งงานได้หากได้รับการอนุญาตจากพ่อแม่ ซึ่งทำให้หลายคนเลือกที่จะแต่งงาน เพราะเมื่อผู้หญิงท้อง ก็ไม่อยากให้พ่อของเด็กต้องติดคุกในข้อหากระทำชำเราเด็ก

"ฉันท้องก่อนบรรลุนิติภาวะ นั่นก็เลยทำให้เรารีบแต่งงาน สามีฉันจะได้ไม่ต้องติดคุก"


เคธลีน จากสหรัฐฯ เล่าว่า เธอแต่งงานตั้งแต่อายุ 16 ปี กับผู้ชายที่อายุมากกว่าเธอเป็นสิบปี โดยที่แม่ของเธอเป็นผู้อนุญาตให้แต่งงานได้ แม้เธอจะมีความสุขกับชีวิตคู่มาจนถึงทุกวันนี้ และไม่สนใจเสียงติฉินนินทาใดๆ แต่เธอก็ยังรู้สึกเสียดายที่แต่งงานเร็ว เธอกล่าวว่า "ฉันก็รู้สึกเสียใจมากที่เรียนไม่จบ และโตเร็วเกินไปมาก มันมีสิ่งที่คุณไม่ควรทำเวลาที่เป็นเด็ก ซึ่งฉันเพิ่งเห็นทั้งหมดในตอนนี้ แต่มองไม่เห็นในตอนเด็ก ฉันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว"


"ฉันไปร่วมพิธีจบการศึกษาชั้นประถมศึกษา มีคนประกาศว่า ถ้าเด็กผู้หญิงคนไหนถูกบังคับให้แต่งงาน ควรจะไปแจ้งตำรวจ"


มวานาฮามีซี หญิงสาวชาวแทนซาเนียเล่าว่า เธอจำเบอร์โทรศัพท์ที่คนมาประกาศให้ไปแจ้งความเกี่ยวกับการแต่งงานเด็กไว้ จากนั้นก็ขอให้ยายติดต่อเจ้าบ่าว แล้วค่อยโทรแจ้งตำรวจ แล้วเจ้าหน้าที่ก็ถามชื่อเจ้าบ่าวและวันที่จะจัดงานแต่ง แต่แม่ของเธอไม่ยอมบอกกำหนดวันแต่งหรือชื่อเจ้าบ่าว โดยบอกว่า "ไม่ใช่ธุระของเธอ"

อย่างไรก็ตาม คืนก่อนวันแต่งงาน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไปที่บ้านของมวานาฮามีซี เพื่อถามว่า เธออยากแต่งงานไหม พอเธอตอบว่า ไม่อยากแต่งงาน เขาจึงสั่งให้ยกเลิกพิธี ปัจจุบัน เธอได้ไปอยู่ในศูนย์ช่วยเหลือเด็กที่ถูกบังคับแต่งงาน รวมกับเพื่อนคนอื่นๆ โดยเธอกล่าวว่า เธอเริ่มเรียนด้านสิ่งทอ และมีความที่จะเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ที่ยิ่งใหญ่


"ขอให้ฉันเป็นเหยื่อคนสุดท้าย"


รัสมินาห์ ผู้หญิงชาวอินโดนีเซียที่เคยถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่เด็ก จากนั้น สามีก็ทิ้งไป ทำให้ชีวิตยากลำบาก เพราะเธอมีการศึกษาน้อย แต่เธอก็มีความมุ่งมั่นที่จะยุติการแต่งงานก่อนบรรลุนิติภาวะ เพื่อไม่ให้เด็กคนอื่นๆ ต้องเผชิญกับชีวิตที่ยากลำบากเหมือนเธอ

"ฉันฟ้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากฎมายการแต่งงานปี 2517 เพื่อยุติการแต่งงานเด็ก มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีที่ต้องแต่งงานตอนยังเด็ก ขอให้ฉันเป็นเหยื่อคนสุดท้าย ฉันต่อสู้เพื่อลูกๆ ของฉัน ไม่ใช่พวกเขาต้องเจอแบบฉัน ควรต้องมีคนต่อสู้เพื่อพวกเขา"


ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการแต่งงานเด็ก

ยูนิเซฟกล่าวว่า การยุติการแต่งงานในเด็กเป็นหมุดหมายสำคัญในการปรับปรุงสุขภาพโลก กำจัดความยากจนและขยายขอบเขตสิทธิมนุษยชน โดยผู้หญิงที่แต่งงานตั้งแต่เด็กส่วนใหญ่จะถูกทำร้ายร่างกาย และชีวิตที่ต้องรับผิดชอบงานบ้านและเลี้ยงดูบุตรตั้งแต่อายุยังน้อยทำให้เกิดวงจรความไม่เท่าเทียมทางเพศที่มีมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตของผู้หญิงวัย 15-19 ปี เกิดจากภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์และคลอดบุตร โดยทารกที่เกิดจากผู้หญฺงที่อายุต่ำกว่า 18 ปีมักมีโอกาสเสียชีวิตและแคระแกร็นกว่าคนอื่น

การยุติการแต่งงานของคนอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ UN โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถยุติการแต่งงานก่อนบรรลุนิติภาวะให้ได้ภายในปี 2573 และขอให้รัฐบาล ภาคประชาสังคม ผู้นำทางศาสนา ผู้นำชุมชน และครอบครัวในประเทศต่างๆ ร่วมมือกัน