ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทยออกมาเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า “ผู้นำในอดีตที่สืบทอดอำนาจโดยยึดประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องก่อนประเทศชาติและประชาชน จบไม่สวยสักราย” ว่า การแสดงความเห็นนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งต้องขอบคุณ อนุสรณ์ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยนึกถึงพฤติกรรมของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พยายามสืบทอดอำนาจ เพื่อครอบงำการเมือง พฤติกรรมผ่านเครือญาติที่มีบทบาทในพรรคการเมือง แล้วจบไม่สวย ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในขณะนี้

ทิพานัน กล่าวว่า การกล่าวเตือนของ อนุสรณ์ เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ที่สังคมต่างนึกถึงพฤติกรรม สืบทอดอำนาจโดยยึดประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ก่อนประเทศชาติและประชาชนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร แล้วจบไม่สวยจริงๆ แม้วันเวลาจะเปลี่ยนไปแต่ภาพจำการโกงของ ทักษิน ชินวัตร ยังชัดเจนในใจคนไทยเสมอ เช่น การคอรัปชันกรณีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อจำนวน 4,000 ล้านบาทแก่รัฐบาลสหภาพพม่า โดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุน เพื่อนำเงินกู้ดังกล่าวไปใช้ในการซื้อสินค้าและบริการของบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) อันเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสั่งจำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา คดีนี้ชัดเจนที่สุดที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว

ทิพานัน กล่าวว่า ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ยังมีการแต่งตั้งเครือญาติตระกูลชินวัตร ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นจำนวนมาก ซึ่งประชาชนสามารถค้นหาได้ทั่วไป ทั้งนี้ ทักษิณ ยังสนับสนุนให้เครือญาติ ตั้งแต่น้องเขยคือ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และน้องสาว คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อีกทั้งล่าสุดคือการสนับสนุน แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวเข้ามามีบทบาทเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

“สิ่งที่สำคัญ ประชาชนยังนึกถึงและจำจด ผู้นำแบบนายทักษิณ ที่ตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2544-2549 ก็มีทั้งคดีซุกหุ้น คดีโกงทุจริต รวมเกือบ 10 คดี แถมยังมีพฤติกรรมแสดงบทบาทการครอบงำการเมือง และบทบาทสืบทอดอำนาจผ่านการคิดนโยบายต่างๆ ของพรรคการเมืองมาโดยตลอด อย่างเช่นในการเลือกตั้งปี 2554 มีสโลแกนหาเสียง “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” และนายทักษิณ ยังเคยให้สัมภาษณ์นิตยสาร ฟอร์บ (Forbes) ทำนองว่าเป็นคนคิดนโยบายจำนำข้าวขึ้นมาเอง ซึ่งขณะนั้นคือ รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นรัฐบาลที่ดำเนินโยบายดังกล่าว และสุดท้ายมีผลเสียกระทบอย่างรุนแรงต่อการค้าข้าวไทยและภาวะหนี้สินของชาติอย่างมหาศาล จากการโกงโครงการรับจำนำข้าว จนสังคมตราหน้าว่าสืบทอดการโกงแบบมาราธอน จริงๆ” ทิพานัน กล่าว

ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายอนุสรณ์ตั้งข้อสังเกตรัฐมนตรีลาประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิของรัฐมนตรีที่จะลาประชุม เนื่องจากมีภารกิจหรือติดราชการสามารถทำได้ ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใด หากองค์คณะครบตามที่กฎหมายกำหนด คณะรัฐมนตรีสามารถประชุมได้ตามปกติ ซึ่งองค์ประชุมกำหนดให้มีรัฐมนตรีประชุม 1 ใน 3 ของจำนวนรัฐมนตรีทั้งหมด จึงอยู่ที่จำนวน 12 คน แต่ก็ต้องขอบคุณนายอนุสรณ์ที่เป็นห่วงเรื่องที่ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับตนเองเท่าไรนัก