จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีมีผู้เสียชีวิต 1 ราย สืบเนื่องจากหลบหนีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานต่างระดับถนนบางกรวย-ไทรน้อย ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังผู้ตายพร้อมเพื่อนได้เดินทางกลับจากร้านกินดื่ม โดยรถจักรยานยนต์ซึ่งระหว่างทางผู้ตายและเพื่อนได้ขับหลบหนีด่านตรวจดังกล่าว ขณะที่หลบหนีนั้นเพื่อผู้ตายให้การว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามที่จะใช้กระบองฟาด แต่ผู้ตายหลบหนีได้อย่างไรก็ตามมีเจ้าหน้าที่ 1 นาย ได้กระโดดถีบเป็นเหตุให้รถเสียหลักชนโคนเสาป้ายบอกทางเสียชีวิตคาที่
นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความอิสระ ให้ความเห็นด้านกฎหมายกับ 'วอยซ์ออนไลน์' ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวตามที่มีรายงานในสื่อเห็นว่าผู้ตายนั้นไม่ปรากฎการกระทำผิดที่ร้ายแรง เพียงเข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายจราจรทางบกมีโทษสถานเบา โดยส่วนตัวมองว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เข้าข่ายลักษณะลุแก่อำนาจและกระทำเกินกว่าเหตุ เนื่องจากสามารถออกหมายเรียกผู้กระทำผิดได้ภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานจากกล้องวงจรปิด หรือการจดจำป้ายทะเบียนของผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร ไม่ควรใช้การสันนิษฐานและใช้กำลังรุนแรงจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เพราะกรณีนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุหรือข้อเท็จจริงในการหลบหนี
"อยากฝากไปถึงผู้ขับขี่และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควรเคารพกฎหมาย ฝ่ายเจ้าหน้าที่ควรอยู่ในขอบเขตไม่ใช้ความรุนแรง ส่วนผู้ขับขี่ก็ไม่ควรหลบหนีเพราะเหตุการณ์แบบนี้จะนำไปสู่การสูญเสียทั้งสองฝ่าย" ทนายเกิดผล กล่าว
อย่างไรก็ตามล่าสุด พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางบัวทอง ได้ชี้แจงว่า เบื้องต้นจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์ มายูเทรินใต้สะพานลอยข้ามแยกไป อ.ไทรน้อย จำนวน 3 คัน เจอด่านตรวจจึงเลี้ยวรถกลับโดยทำการย้อนศรไป 1 คันออกไปทางถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี อีก 2 คันด้วยความเร็วเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งตัดถนนมาดักด้านหน้าของรถ จยย.ของผู้เสียชีวิต จึงเป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิตนั้นเสียหลักชนขอบฟุตบาทและไถลไปกว่า 10 เมตร ศีรษะไปชนกับเสาป้ายบอกทางเสียชีวิต
"ยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่กระโดดถีบตามที่แต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามจะต้องตรวจสอบพยานหลักฐานซึ่งเพิ่มเติมและจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย โดยล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยและชี้แจ้งให้กับทางญาติรับฟังแล้ว ซึ่งทางญาติเข้าใจและไม่ติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น"