ลูอิส อีนาซียู ‘ลูลา’ ดา ซิลวา ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีในวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมาและให้คำสัญญาว่าจะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นผลจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของ ฌาอีร์ โบลโซนาโร ประธานาธิบดีฝ่ายขวาในสมัยก่อนหน้า

ในสมัยของโบลโซนาโร ระดับการตัดไม้ทำลายป่าในป่าแอมะซอนพุ่งสูงขึ้นที่สุดในรอบ 15 ปี หลังเขาส่งเสริมให้ธุรกิจค้าไม้และเกษตรกร เข้าไปในพื้นที่ป่าเพื่อตักตวงผลประโยชน์จากทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ของป่าแอมะซอน

อย่างไรก็ดี การตัดสินใจของลูลาที่เลือกใช้เครื่องบินกัลฟ์สตรีม G600 ในการเดินทางไปยังประเทศอียิปต์ได้ถูกวิจารณ์อย่างมากจากทั้งฝ่ายค้านและผู้ที่สนับสนุนเขา “ถ้าเขาเดินทางโดยใช้เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวจริงๆ นั่นก็เป็นความผิดพลาดที่เขาควรหลีกเลี่ยง” อดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งกล่าว “ในฐานะประธานาธิบดี มันมีบางสิ่งที่คุณทำไม่ได้ แม้จะยังไม่ได้สาบานตนก็ตาม”

โฆษกของลูลากล่าวว่า เขาจะไม่ออกความเห็นใดๆ ต่อกรณีดังกล่าว แต่รองประธานาธิบดีของลูลากล่าวว่า โฆเซ เซริปีเอรี จูเนียร์ ผู้เป็นเจ้าของเครื่องบิน ได้บินไปกับลูลาในเที่ยวบินนั้นด้วย เขาไม่ได้ให้ลูลายืมเครื่องบินเจ็ทนั้นเพื่อใช้คนเดียว

“ขณะนี้ลูลายังไม่ได้เป็นประธานาธิบดีของประเทศ เขายังไม่สามารถใช้เครื่องบินของรัฐบาลได้” เวลลิงตัน ดิอาส ซึ่งเป็นผู้ดูแลเรื่องการเปลี่ยนผ่านอำนาจของลูลากล่าว “ดังนั้นมันจึงไม่มีกฎข้อใดที่ห้ามไม่ให้ลูลาหาคนไปส่งได้”

ดิอาสชี้ว่า ลูลาไม่สามารถเดินทางด้วยเที่ยวบินของสายการบินพาณิชย์ได้ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เขาจะถูกคุกคามหรือแม้กระทั่งทำร้ายโดยกลุ่มฝ่ายขวาหัวรุนแรง ซึ่งมีหลายคนในนั้นเคยกล่าวว่า อยากเห็นลูลาเสียชีวิต

อย่างไรก็ดี กรณีอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่ลูลาเฉือนชนะโบลโซนาโรไปในการเลือกตั้งที่ดุเดือดที่สุดนับตั้งแต่บราซิลเปลี่ยนผ่านจากระบอบเผด็จการในปี 2523 มันจึงชี้ให้เห็นว่า ลูลาถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิดและเผชิญกับความท้าทายทันที

ในทางนิตินัย ลูลายังไม่ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการจนกระทั่งวันที่ 1 ม.ค. แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินเรียลบราซิลอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐฯ และตลาดหุ้นบราซิลร่วงลงในระดับที่สูงที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปี ภายหลังจากที่ลูลากล่าวสุนทรพจน์ว่าเขาจะบริหารประเทศเพื่อคนยากจน ไม่ใช่เพื่อตลาดหุ้น

แรงกดดันที่มีต่อลูลายิ่งทวีคุณขึ้น โดยเฉพาะเมื่อในรัฐสภาบราซิล ฝ่ายของโบลโซนาโรยังคงแข็งแกร่งอยู่มาก นอกจากนี้ยังมีผู้ชุมนุมที่คัดค้านผลการเลือกทั้งที่ยังคงชุมนุมประท้วงตามท้องถนน

ลูลาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างปี 2546 จนถึง 2554 จนกระทั่งลงจากอำนาจเพื่อให้ ดิลมา รุสเซฟ จากพรรคแรงงานของเขาขึ้นดำรงตำแหน่งต่อ รุสเซฟฟ์ถูกถอดถอนจากตำแหน่งในภายหลังหลังเกิดกรณีการทุจริตซึ่งลุกลามไปทั่วพรรค และทำให้ลูลาต้องโทษจำคุกในปี 2561

ลูลาถูกปล่อยตัวในเกือบอีก 2 ปีให้หลัง และโทษของเขาถูกยกเลิกด้วยเหตุผลเชิงเทคนิค แต่ประชาชนชาวบราซิลผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหลายคนยังคงไม่ให้อภัยเขา

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในกรณีการเดินทางของลูลา ส่วนหนึ่งมาจากชื่อของเจ้าของเครื่องบินเจ็ทที่เขาโดยสาร เซริปีเอรี จูเนียร์ เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทควาลิคอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพชั้นนำของบราซิลในปี 2540 เซริปีเอรี จูเนียร์ ออกจากบริษัทในปี 2562 และถูกจับกุมในปี 2563 จากกรณีการจัดทำแคมเปญหาเสียงที่ผิดกฎหมาย

เซริปีเอรี จูเนียร์ ยังเป็นผู้สนับสนุนลูลารายแรกๆ ในแคมเปญหาเสียงของเขาในปีนี้ เขาจัดงานเลี้ยงและชวนผู้บริหารในธุรกิจเอกชนหลายคนที่คลางแคลงใจที่จะเข้าพบประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายที่มีนโยบายขัดแย้งกับผลประโยชน์ของพวกเขส

ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2022/nov/15/lula-cop27-private-jet