นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นที่หนักกว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 คือการที่ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นและไม่มีความไว้วางใจในรัฐบาล ยิ่งสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือหมอทรวงอกออกแถลงการณ์เตรียมความพร้อมโควิด-19 ระยะ 3 ทำนองว่าขอสู้แม้ขาดแม่ทัพที่เข้มแข็งและจะไม่ก้มหัวให้กับผู้บริหารที่ขาดความเชี่ยวชาญ ยิ่งทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาลมากขึ้นไปอีก
"สิ่งที่ผมจะแนะนำรัฐบาลให้รีบดำเนินการคือใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ เพื่อสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมกันป้องกัน แก้ไข ระงับยับยั้ง ฟื้นฟูหรือช่วยเหลือประชาชน มีอำนาจกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกัน แก้ไข หรือระงับสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น" นายวัฒนา ระบุ
นายวัฒนา ระบุว่า มาตรการที่จำเป็นที่สุดคือมาตรการเกี่ยวกับสุขอนามัยและมาตรการทางเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดกับประชาชนว่ารัฐบาลมีความสามารถที่จะดูแลและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อันจะทำให้ประชาชนมีความมั่นใจและเชื่อมั่นที่จะใช้ชีวิตและประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปตามปกติ เช่น
(1) เปิดทีวีช่องใดช่องหนึ่งตลอด 24 ชั่วโมงเป็นช่องทางสื่อสารเดียว (single channel) เพื่อให้ความรู้ที่เกี่ยวกับโควิด-19 รวมถึงวิธีการป้องกันและวิธีการรักษารวมทั้งให้ประชาชนสามารถติดต่อสอบถามได้ตลอดเวลา
(2) รวบรวมบุคคลากรทางการแพทย์มาอยู่ในคณะกรรมการเดียวกันทั้งหมดเพื่อให้มาตรการเกี่ยวกับการป้องกันและการรักษาเป็นมาตรการเดียวกันไม่สร้างความสับสนกับประชาชนอันจะนำมาซึ่งความเชื่อมั่น
(3) กำหนดมาตรการอันจำเป็นสำหรับอุปกรณ์เพื่อการป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่ามีเพียงพอที่จะให้ประชาชนใช้เพื่อป้องกัน ส่วนที่เกินจากความจำเป็นที่ต้องใช้ในประเทศจะให้ส่งออกไปยังมิตรประเทศเพื่อการช่วยเหลือเท่านั้นและต้องดำเนินการโดยเปิดเผยโปร่งใส
(4) กระทรวงการคลังจะต้องกำหนดมาตรการอันจำเป็นเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ไม่ใช่การแจกเงินที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่น มาตรการด้านภาษี หรือมาตรการสินเชื่อ เป็นต้น
"ทั้งหมดที่ผมกล่าวมาคือวิธีการบริหารในสถานการณ์วิกฤต (Crisis Management) ซึ่งรัฐบาลสามารถกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อทำให้ประชาชนเชื่อมั่นและไม่สับสน ที่สำคัญคือจะต้องเร่งดำเนินการก่อนที่ทุกอย่างจะสายจนเกินแก้"