ไม่พบผลการค้นหา
ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดหนองคาย ยังขึ้นไม่หยุดจนมีระดับสูงกว่าตลิ่งแล้ว 12 ซม. ขณะที่นครพนมและบึงกาฬจับตาเร่งช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

หนองคายน้ำสูงกว่าตลิ่งแล้ว

ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดหนองคาย ยังขึ้นไม่หยุดจนมีระดับสูงกว่าตลิ่งแล้ว 12 ซม. หนุนเข้าลำห้วยและเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา ในขณะที่ชุมชนจอมมณีภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย แม้ว่าหลายฝ่ายจะร่วมกันทำแนวกระสอบทราย แต่น้ำโขงยังได้ซึมเข้าท่วมถนนภายในซอยและพื้นที่อาคารบ้านเรือนแล้ว

ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย ยังขึ้นไม่หยุด ล่าสุดวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนอคาย กรมทรัพยากรน้ำมีระดับอยู่ที่ 12.32 เมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของเมื่อวานนี้ ถึง 47 ซม. สูงกว่าตลิ่งแล้วถึง 12 ซม. อัตราเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสูงถึง 4 ซม.ต่อชั่วโมง และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากระดับน้ำทางตอนเหนือคือที่สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย วันนี้มีระดับสูงขึ้นถึง 1 เมตร เช่นกัน ซึ่งจะไหลมาถึงจังหวัดหนองคาย ภายใน 18 ชั่วโมงนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง

จากระดับน้ำโขงที่มีระดับสูงกว่าระดับตลิ่ง ทำให้หนุนเข้าลำห้วยสาขาและเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาแล้วหลายจุด ในขณะที่ชุมชนจอมมณีภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย แม้ว่าหลายฝ่ายจะร่วมกันทำแนวกระสอบทราย แต่น้ำโขงยังได้ซึมเข้าตามรายแตกและรอยแยกของท่อระบายน้ำ เข้าท่วมถนนภายในซอยและพื้นที่อาคารบ้านเรือนแล้ว

DJI_0239.JPG

นครพนม เฝ้าระวัง เร่งสูบระบายน้ำ

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2561 นายขจรศักดิ์ นิตชิน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ระดมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ของเมื่อวาน ที่ผ่านมา โดยได้เร่งทำการสูบน้ำจากจุดระบายน้ำในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม เพื่อไหลระบายลงสู่น้ำโขง ให้มากที่สุด เพื่อป้องกันน้ำเอ่อท่วมหากมีฝนตกหนัก แต่เริ่มมีปัญหาไหลระบายลงน้ำโขงช้า เพราะระดับน้ำโขงสูง อยู่ที่ระดับ 12.70 เมตร ใกล้จุดวิกฤติแค่ประมาณ 30 เซนติเมตร คือที่ระดับ 13 เมตร ต้องใช้วิธีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำจากร่องระบายน้ำในตัวเมืองออกให้มากที่สุดและยังต้องปิดทางระบายน้ำทุกจุด ป้องกันน้ำโขงไหลย้อนกลับ นอกจากนี้ยังได้ประสานงานไปยังศูนย์สำนักงานป้องกันและสาธารณะภัยเขต 7 สกลนคร สนับสนุน เสริมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่อีก 1 จุด จากแกติมีการเดินเครื่องสูบน้ำรวม 3 จุด เพื่อให้มีการระบายลงน้ำโขงได้เร็วขึ้น ป้องกันเอ่อท่วมหากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้ระดมรถน้ำดับเพลิง นำเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ไปล้างทำความสะอาด ตามถนน เส้นทางเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว หลังน้ำลด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นเหม็น กระทบความเป็นอยู่ประชาชน และนักท่องเที่ยว

ด้าน นายขจรศักดิ์ นิตชิน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลธาตุพนม เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่เขตเทศบาลอำเภอธาตุพนม ถือเป็นพื้นที่สำคัญ ที่มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางมาไม่ขาดสาย เนื่องจากเป็นที่ตั้งองค์พระธาตุพนม ดังนั้น ทางเทศบาลตำบลธาตุพนม ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้เตรียมพร้อมในการวางแผนป้องกันน้ำท่วมขัง เนื่องจากช่วงนี้ระดับน้ำโขง สูง ใกล้จุดล้นตลิ่ง จึงได้มีการปิดทางระบายน้ำทุกจุดป้องกันน้ำโขงไหลย้อนกลับ รวมถึงเสริมเครื่องสูบน้ำในการสูบน้ำในตัวเมืองออก ให้สามารถรองรับน้ำได้หากมีฝนตก สิ่งที่น่ากังวลคือปริมาณน้ำฝน หากตกต่อเนื่องจะมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมขัง แต่เชื่อว่า จะท่วมขังไม่ทาน ทั้งนี้จะต้องเตรียมพร้อมเสริมเครื่องสูบน้ำ ระบายลงน้ำโขงให้มากที่สุด เนื่องจากช่วงนี้ยังมีความเสี่ยง และทางเทศบาลตำบลธาตุพนมได้จัดเจ้าหน้าที่ คอยดูแล ช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่ 24 ชั่วโมง

บึงกาฬน้ำโขงเพิ่มอีกเฝ้าระวังอีกฝั่งเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย

วันนี้ 2 ก.ย. เวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดบึงกาฬในเช้าวันนี้อยู่ที่ 13.35 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 5 ซม. อยู่ห่างจากตลิ่งเพียง 0.65 เมตร ทั้งนี้เว็บไซค์ ABC Laos news(สำนักข่าวเอบีซีลาว) ได้เผยแพร่หนังสือประกาศแจ้งเตือน ลงวันที่ (31 สิงหาคม 2561) ว่า เขื่อนน้ำงึม 1 จะเพิ่มปริมาณการระบายน้ำออกจากเขื่อนเพิ่มขึ้นอีก โดยการเปิดประตูระบายน้ำจากระดับเดิม 2.6 เมตร ขึ้นเป็น 3 เมตร เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มมากขึ้น ทำให้จำเป็นต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนเพื่อความปลอดภัย มีปริมาณน้ำไหลออกจากเขื่อน 1,136.4 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะทำให้ท้ายเขื่อนน้ำงึม 1 มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งก็ส่งผลกระทบโดยตรงต่อจังหวัดบึงกาฬ ประกอบกับมีน้ำเหนือจากจังหวัดหนองคายไหลลงมาสมทบ ทำให้น้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดบึงกาฬเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

ด้านอีกฝั่งแม่น้ำสงครามที่เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านสันติสุข ม.5 ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ พ.อ.สุภัทร ชูตินันทน์ รองผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับ นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ นอภ.พรเจริญ ,เทศบาลตำบลดอนหญ้านาง, หอการค้าจังหวัดบึงกาฬ, สภาอุตสาหกรรมจังหวัดบังกาฬ, ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร เดินทางเข้าเยี่ยมเยือน พบปะให้กำลังใจแก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคข้าวสาร อาหารแห้งและเวชภัณฑ์ ให้กับประชาชนกว่า 100 ครัวเรือน และที่บ้านคำแก้ว ม.7, บ้านโนนสามัคคี ม.12 ต.ถ้ำเจริญ อ.โซ่พิสัย อีกจำนวน 27 ครัวเรือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ซึ่งประชาชนที่ประสบภัยรู้สึกดีใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน ที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี