พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลวันแรก หลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง โดยเดินทางมาถึงเวลา 06.50 น. และเข้าสักการะท้าวมหาพรหมณ์บนตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนที่จะสักการะพระภูมิเจ้าที่ศาลตา ศาลยาย ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล
โดยภายหลังเสร็จสิ้นพิธี พลเอกฉัตรชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องมงคลของ ครม.ที่ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทร เทพยวรางกูรที่ทรงมีกระแสพระราชดำรัสแก่ ครม.ชุดใหม่ ให้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ต้องดูแลประชาชน โดยขอให้ใช้ความรู้ ความสามารถ ด้วยตั้งใจอย่างมุ่งมั่น เพื่อทำงานให้ประสบความสำเร็จ จึงถือเป็นมงคลอย่างยิ่ง
พลเอกฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายงานจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากยังไม่ได้พบนายกฯ ตั้งแต่ประชุมครม. สัญจร ซึ่งต้องรอนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณามอบหมายงานให้ โดยตนเองพร้อมปฏิบัติหน้าที่ไม่ว่าจะมอบหมายให้ดูแลงานส่วนใด
ขณะที่งานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น ตนเองไม่ได้มอบหมายแนวทางในการทำงานให้รัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งตั้งแต่ตนทำงานที่กระทรวงเกษตรฯ ก็ทำงานเพียงคนเดียวในปีแรก แต่ขณะนี้มีรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยรวม 3 คน จึงเชื่อว่าจะทำให้การบริหารงานเป็นไปได้ด้วยดี
ทั้งนี้ การเดินทางเข้ามาทำเนียบรัฐบาลไม่ได้ถือฤกษ์อะไรเป็นพิเศษ และเข้ามาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมเนียบ ประเพณี ของคนไทย
ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลวันแรก โดยเดินทางมาสักการะท้าวมหาพรหมณ์บนตึกไทยคู่ฟ้า และสักการะพระภูมิเจ้าที่ศาลตา-ศาลยาน ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เวลา 07.30 น. ซึ่งถือฤกษ์ตามพระอุปัชฌาย์ วัดสะแก จ. นครราชสีมา คือเริ่มสักการะสิ่งศักดิ์หลังเวลา 07.00 น
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ไม่หนักใจที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานต่อเนื่องอยู่แล้ว ตั้งแต่การทำแผนปฏิรูปของ สปช. และ สปท. ซึ่งได้ส่งแผนปฏิรูปเข้ามาจำนวนมาก ดังนั้นปีนี้จึงเป็นปีที่สำคัญในการขับเคลื่อนการปฏิรูปใน 1 ปี โดยตนจะแบ่งงานกับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยตนจะรับผิดชอบภารกิจเกี่ยวกับงานด้านเศรษฐกิจ เช่น สภาาพัฒนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมย้ำว่าส่วนตัวไม่ตื่นเต้นที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลมาแล้ว 2 ปี แค่ย้ายจากห้องทำงานชั้น 1 ไปชั้น 2 และจะใช้โอกาสนี้ ขับเคลื่อนงานที่เกี่ยวกับคนจนและคนระดับฐานรากเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
นายกอบศักดิ์ ยังกล่าวว่า ส่วนกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสให้รัฐมนตรีน้อมนำสิ่งที่รัชกาลที่ 9 เคยปฏิบัติ นำมาเป็นแบบอย่าง และนำไปสู่การปฏิบัติจริง เห็นว่ารัชกาลที่ 9 เป็นกษัตริย์นักพัฒนาที่เห็นช่องทางในการพัฒนาประเทศ แต่เราไม่เฉลียวใจ และไม่ได้ให้ความสำคัญกับชนบท การพัฒนาระดับอำเภอและจังหวัด กลับไปเน้นการลงทุนบริษัทใหญ่ในภาคอุตสาหกรรม ทำให้มีการพัฒนาเฉพาะกรุงเทพฯ
ดังนั้นจึงจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสในการขับเคลื่อนประเทศ เช่นเดียวกับ นายกรัฐมนตรี ที่มีดำริให้เร่งแก้ไขปัญหาคนจน อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่รู้สึกกดดัน เพราะได้เตรียมงานมามากแล้ว เนื่องจากมีข้อเสนอจากหลายส่วนในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะแผนปฏิรูปเศรษฐกิจที่มีแผนครบ เหลือเพียงการขับเคลื่อนแท้จริงเท่านั้น รวมถึงการดำเนินอีอีซีก็ยังดำเนินการต่อได้
ด้านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีในทำเนียบรัฐบาลวันแรก ภายหลังย้ายกลับดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายสุวพันธุ์เดินทางมาสักการะสักการะพระภูมิเจ้าที่ศาลตา-ศาลยายที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.45 น.
นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ยังไม่ได้มอบหมายงานอะไรเป็นพิเศษ แต่ส่วนตัวยินดีทำงานเต็มความสามารถ คาดว่านายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้ภายในสัปดาห์หน้า เพราะจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ ซึ่งอาจจะมีบางเรื่องที่ทำอยู่แล้วมาดำเนินการต่อ
นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ขอตอบว่าจะกลับมาขับเคลื่อนงานภายในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะกลับมาดูแลหรือไม่ ส่วนเรื่องตรวจสอบการทุจริตเงินทอนวัดทางศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. มีหน้าที่รับผิดชอบอยู่แล้ว