ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น.ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม โดยระบุถึง 5 กลุ่มที่ตำรวจจำแนกเพื่อดำเนินคดี ในส่วนของกลุ่มที่ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถตำรวจมีความคืบหน้าไปมาก ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี แต่ยังไม่เปิดเผยจำนวนผู้ต้องหา ระบุเพียงว่า เป็นกลุ่มบุคคล ส่วนการชุมนุม ม็อบ9มีนา หน้าศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก ทางตำรวจกับเจ้าหน้าที่ศาลจะหารือร่วมกันในส่วนที่เกี่ยวกับการละเมิดอำนาจหรือดูหมิ่นศาล นอกเหนือจากข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม

พล.ต.ต.ปิยะ ย้ำว่า กรุงเทพฯยังมีกฎหมายห้ามชุมนุม หากผู้ใดชุมนุมและกระทำการเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะถูกดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน และฝากเตือนด้วยว่า กรรมคือเครื่องชี้เจตนา หากผู้ใดกระทำผิดก็ต้องรับโทษ 

"ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน สิ่งที่ท่านทำกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ซึ่งเราต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย"

ส่วนการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมหลังจากนี้ ทางตำรวจจะพิจารณาตั้งรับหรือวางกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยให้เหมาะสมตามการข่าว ซึ่งจะมีกำลังเสริมสำหรับตำรวจในกรณีที่การชุมนุมลุกลามบานปลาย โดยไม่ได้กังวลเรื่องจำนวนมวลชนว่าจะมากหรือน้อย แต่เป็นห่วงเรื่องแนวทางการเคลื่อนไหวที่ระยะหลังผู้ชุมนุมมักใช้ความรุนแรง 

"จำนวนเราไม่ห่วง เราห่วงการใช้ความรุนแรง อย่างที่พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนเห็นว่า ผู้ชุมนุมได้ใช้ความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มีการทุบทำลายสถานที่ราชการ มีการทุบทำลายทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน และมีการใช้อุปกรณ์ต่างๆในการชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นทินเนอร์เชื้อเพลิง พลุไฟ ซึ่งเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายลุกลามใหญ่โต"