เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
เฟซบุ๊กเพจของสถานเอกอัครราชทูตหลายชาติที่ประจำประเทศไทย พร้อมใจกันโพสต์ภาพและข้อความในประเด็นเดียวกันคือ เรื่องการบังคับบุคคลสูญหายที่ขัดกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฟซบุ๊กของสถานทูตเยอรมนี สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ สถานทูตเดนมาร์ก สถานทูตนิวซีแลนด์ และสถานทูตออสเตรเลีย และสถานทูตสวีเดน ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความทั้งรูปแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษในทำนองเดียวกันว่า
#การบังคับสูญหาย ลองจินตนาการดูว่าจะเป็นเช่นไรหากจู่ ๆ คนที่ท่านรักก็หายตัวไป ท่านจะรู้สึกอย่างไร? ท่านจะคิดถึงเขาไหม? ท่านจะร่ำร้องเพื่ออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นไหม? ท่านจะทำทุกวิถีทางเพื่อตามหาเขาไหม? ท่านจะเรียกร้องขอความยุติธรรมหรือไม่?
น่าเศร้าใจที่มีหลายแสนคนในอย่างน้อย 85 ประเทศทั่วโลกได้หายตัวไปในระหว่างที่เกิดความขัดแย้งหรือมีการปราบปราม
#การบังคับบุคคลให้สูญหาย ไม่ใช่แค่อาชญากรรมต่อเนื่องเท่านั้น ผู้เสียหายโดยมากถูกทรมานหรือสังหารโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ได้รับคำสั่งจากรัฐ ทั้งนี้ การบังคับบุคคลให้สูญหายทำให้ครอบครัวและญาติของผู้เสียหายเจ็บปวดแสนสาหัส และทุกข์ทรมานใจไปชั่วชีวิต การบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นเรื่องที่มิอาจยอมรับได้และขัดกับกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ครอบครัวของผู้เสียหายและสังคมมีสิทธิที่จะทราบความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่พวกเขารัก
แม้เฟซบุ๊กของสถานทูตประเทศดังกล่าวจะไม่ได้ยกตัวอย่างหรือกล่าวถึงการถูกอุ้มหายในกรณีใด ทว่าวันนี้ 4 มิถุนายน ถือเป็นวันครบรอบ 1 ปี การหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมทางการเมือง ชาวไทยที่ลี้ภัยในกัมพูชาหลังรัฐประหาร ถูกพาตัวขึ้นรถยนต์สีดำหายออกจากที่พักในกรุงพนมเปญอย่างไร้ร่องรอยกระทั่งปัจจุบัน