นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ ได้แบ่งงานให้กับ 2 รัฐมนตรีช่วย รับผิดชอบคนละ 2 กลุ่มงาน โดยนายลักษณ์ วจนานวัช รับผิดชอบเรื่องผลผลิตและการตลาด นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รับผิดชอบขั้นตอนการผลิตและสานต่อแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง
นายกฤษฎา ระบุว่า มาตรการเร่งด่วนที่ต้องทำในช่วง 3 เดือนแรก คือ ผลักดันรายได้เกษตรกรให้ดีขึ้น และสูงกว่าต้นทุนการผลิต พืชชนิดใดที่รัฐส่งเสริมให้ปลูก จะต้องขายได้ ส่วนยางพาราที่ค้างสต๊อก กว่า 1 แสนตัน ยืนยัน จะไม่เทขายในตลาด แต่ให้หน่วยราชการนำไปใช้ เตรียมนำเข้าหารือ ครม. สัปดาห์หน้า
ด้านนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุ มีหลายเรื่องเร่งด่วน โดยเฉพาะการเปิดประมูลแหล่ง บงกช - เอราวัณ ที่จะหมดอายุสัมปทาน ในปี 2565-2566 ซึ่งมีกรอบดำเนินการอยู่แล้ว แต่ขอเวลาหารือกับหลายภาคส่วน ก่อนเลือกแนวทางที่เหมาะสม พร้อมนำข้อมูลเสนอคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี ชี้ขาด
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 การพัฒนารถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง และท่าเรือสำคัญ ส่วนการแก้ปัญหา ขสมก. มองว่า ไม่ใช่เรื่องยาก หากแก้ตรงจุด และหากได้รับมอบหมาย จะผลักดันให้มีรถเมล์ใหม่ออกมาให้บริการ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศเร่งผลักดันนโยบายกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น พร้อมยืนยัน การเข้ามาเป็นรัฐมนตรีใหม่ ไม่มีโควต้าพรรคใด และนายกรัฐมนตรี ตอบชัด รัฐบาลนี้ไม่มีพรรค ขอแค่ทำงานได้ พร้อมระบุ การทำงานไม่ใช่มุ่งสร้างอาณาจักรใหม่ แต่จะใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาประเทศ และปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ภายในช่วง 1 ปีที่เหลือ