สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ พนักงานโรงงานยาสูบ ร่วมกับเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ และสมาคมการค้าผู้ขายส่งยาสูบ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับกระทรวงการคลัง ให้แก้ไขปัญหาจากการปรับโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบ ตามพ.ร.บ.สรรพสามิต ปี 2560 ที่ประกาศใช้เมื่อ 16 กันยายนที่ผ่านมา 

แม้กฎหมายมีเจตนารมย์ให้เก็บรายได้ภาษีเพิ่มขึ้น และให้คนลดละเลิกบุหรี่ แต่ผลกลับทำให้บุหรี่ต่างประเทศราคาลดลง และโรงงานยาสูบ มีรายได้ลดลง คาดว่าในปีงบประมาณ 2561 จะขาดทุนกว่า 1,575 ล้านบาท ทำให้นำส่งรายได้เข้ารัฐและภาษีต่างๆ ลดลง 13,267 ล้านบาท จากปีก่อน ทั้งนี้ จะรวบรวมรายชื่อผู้เห็นร่วมยื่นฟ้องศาลปกครอง วันที่ 14 ธันวาคมนี้ ขณะนี้มีประมาณ 1 หมื่นรายชื่อ  

ด้านกระทรวงการคลัง ส่งนายจิระ พันธุ์คีรี ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการคลัง เป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน และหารือตัวแทนผู้ร้องเรียน เป็นเวลา 10 นาที โดยให้ผู้ชุมนุม รออยู่นอกรั้วกระทรวงการคลัง 

การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ทำให้บุหรี่ราคาไม่เกิน 60 บาท มีอัตราภาษีร้อยละ 20 ส่วนบุหรี่ราคาเกิน 60 บาท มีภาษีร้อยละ 40 ส่งผลให้ราคาบุหรี่แปรผันตามการแสดงราคาขายปลีกแนะนำของผู้ผลิตและผู้นำเข้า ซึ่งมีผู้นำเข้าบุหรี่ต่างประเทศบางราย แจ้งราคาขายปลีกแนะนำต่ำกว่า 60 บาท และทำราคาแข่งกับโรงงานยาสูบ