ไม่พบผลการค้นหา
เอช แอนด์ เอ็ม (H&M) แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำระดับโลก ต้องปิดสาขาในแถบแอฟริกาใต้ลงชั่วคราว หลังจากผู้ชุมนุมประท้วงบุกเข้าไปทำลายสินค้า เพราะไม่พอใจกับการเผยแพร่โฆษณาเหยียดผิว

หลังจากเอช แอนด์ เอ็ม แบรนด์แฟชั่นค้าปลีกยักษ์ใหญ่สัญชาติสวีเดน โพสต์ภาพนายแบบเด็กผิวสีใส่เสื้อยืดสกรีนคำว่า 'ลิงสุดเจ๋งในผืนป่า (Coolest Monkey in the Jungle)' พร้อมสีหน้าโกรธนิดๆ ลงในโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ลุกลามไปทั่วโลก ในประเด็นการโฆษณาเหยียดเชื้อชาติ และสีผิว

โดยเมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) สมาชิกพรรคนักสู้เพื่อเสรีภาพทางเศรษฐกิจ (Economic Freedom Fighters – EFF) ซึ่งเป็นแกนนำประท้วง พร้อมด้วยประชาชนที่ไม่พอใจกับโฆษณาดังกล่าว ตัดสินใจบุกเข้ารื้อทำลายข้าวของภายในร้านเอช แอนด์ เอ็ม 6 สาขาในโจฮันเนสเบิร์กใน ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก โดยผู้ประท้วงทุกคนพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงและบังคับให้ร้านค้าย่านแซนด์ตัน เมนลีน พาร์ค และเดอะ อีสต์ แรนด์ มอลล์ ปิดกิจการ

หลังจากเหตุการณ์บานปลาย ตำรวจท้องถิ่นต้องออกมาห้ามปรามและควบคุมฝูงชนด้วยการใช้กระสุนยาง เนื่องจากมีผู้ประท้วงบางส่วนเดินเข้าไปในเอช แอนด์ เอ็ม สาขาศูนย์การค้า เดอะ อีสต์ แรนด์ และขโมยสินค้าหลายรายการ ขณะที่สาขาเมนลีน พาร์ค ผู้ประท้วงแค่โยนเสื้อผ้าไปรอบๆ แต่ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการขโมยสินค้า

ทางด้านเอช แอนด์ เอ็ม ตัดสินใจปลดภาพต้นตอของปัญหาออก พร้อมประกาศขอโทษผ่านทางทวีตเตอร์ และโพสต์แถลงการณ์บนเว็บไซต์ว่า ทางเอช แอนด์ เอ็มเสียใจสุดซึ้งกับสิ่งที่ทำผิดพลาดไป และเข้าใจในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินของร้านค้าในแอฟริกาใต้

"สิ่งที่สำคัญสุดสำหรับเราคือ ความปลอดภัยของพนักงาน และลูกค้า โดยเราจะปิดสาขาในแอฟริกาใต้ชั่วคราว เพื่อไม่ให้มีพนักงาน หรือลูกค้าคนใดได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะกลับมาเปิดทันทีที่สถานการณ์ปลอดภัยอีกครั้ง"


“เราเชื่อมั่นว่า การเหยียดผิว หรืออคติทุกรูปแบบ จะทำด้วยเจตนา หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ แต่พนักงานตามร้านค้าของเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และภาพที่เผยแพร่ออกไป” โฆษกของแบรนด์เอช แอนด์ เอ็ม กล่าว


หลังจากการประท้วงบานปลาย เจทท์ คริสเตียนเซน (Jette Kristiansen) ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารต่างวัฒนธรรม ทำงานอยู่ในเคปทาวน์ และเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยเซาเทิร์น ยุตแลนด์ (Southern Jutland University) ประเทศเดนมาร์ก ออกมาบอกว่า

“ปัจจุบันลูกค้าไม่ใช่แค่คนถือเงินไปให้พวกคุณ ลูกค้าจำเป็นต้องได้รับความเคารพ เอช แอนด์ เอ็ม คงต้องใช้เงินมากหน่อยในการทำความเข้าใจลูกค้า และคิดถึงพนักงานผิวสีที่ต้องไปทำงานหลังจากเหตุการณ์ประท้วงเกิดขึ้น”

เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่แบรนด์แฟชั่นค้าปลีกยักษ์ใหญ่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาวุ่นวายในแอฟริกาใต้ ในปี 2015 เอช แอนด์ เอ็ม ต้องการประชาสัมพันธ์สาขาใหม่ในเคปทาวน์ แต่กลับต้องรับมือกับสาธารณชนที่ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดไม่ใช้ภาพของนางแบบหรือนายแบบผิวสีในพื้นที่โฆษณา และฝ่ายการตลาดของบริษัทดันออกมาให้คำตอบว่า เป้าหมายการตลาดของเอช แอนด์ เอ็ม คือ ต้องการถ่ายทอดภาพลักษณ์ที่ดี ซึ่งเป็นการสื่อนัยว่านางแบบหรือนายแบบผิวสีไม่สอดคล้องกับนิยามภาพลักษณ์ที่ดี จนก่อให้เกิดการประท้วงรุนแรงขึ้น