ไม่พบผลการค้นหา
พรชัย อุดมทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย แจ้งเอาผิด 'แรมโบ้อีสาน' หลังกล่าวหาอาจซื้อเสียงล่วงหน้า พร้อมเตรียมแถลงข่าวชี้แจงวันนี้

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (3 ก.ย. 61) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตย หรือ อพปช. และอดีตแกนนำ นปช.อีสาน ได้นำชาวบ้าน อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา จำนวนกว่า 40 คน เดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา

เพื่อขอให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของนายพรชัย อำนวยทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง โดยมีพยานและหลักฐานมายืนยันกับ กกต.ว่า นายพรชัย ได้ร่วมมือกับเสี่ยเจ้าของโรงงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เสิงสาง จ้าง อสม.และผู้นำชุมชนในพื้นที่ ออกเก็บบัตรประจำตัวประชาชนของชาวบ้าน เพื่อมาเตรียมที่จะให้สมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย

ซึ่งอาจจะเข้าข่ายเตรียมซื้อเสียงล่วงหน้า ผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง ผิดกฎหมายการเลือกตั้ง และขัดคำสั่ง คสช. โดยนายสุภรณ์ ได้ขอให้ กกต.จังหวัดนครราชสีมา ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อนำเรื่องเสนอให้ กกต.ส่วนกลางพิจารณายุบพรรคภูมิใจไทยด้วยนั้น

ล่าสุด วันนี้ (4 ก.ย. 61) นายศิริชัย วิริยะพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคการเมืองต่างๆ ยังไม่สามารถออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ เนื่องจากยังไม่มีโปรดเกล้าฯ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และรัฐบาล คสช.ก็ยังไม่ปลดล็อกทางการเมือง

ส่วนกรณีที่มีผู้มาร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพรรคการเมืองนั้น ตนก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบอยู่ ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่งก่อน แต่ถ้าถามว่าผิดหรือไม่ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ขณะนี้ เพียงแต่อยากชี้แจงว่า ถ้าพรรคการเมืองเก่า ที่มีสมาชิกพรรคเกินกว่า 500 คนอยู่แล้ว และไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องล่ารายชื่อเพื่อให้ครบตามคุณสมบัตรแจ้งจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ ก็ถือว่าไม่สามารถทำได้ ส่วนจะมีความผิดข้อกฎหมายใด หรือถึงขั้นต้องยุบพรรคหรือไม่นั้น ก็ต้องมาดูข้อกฎหมายต่างๆ ประกอบให้ครบถ้วนก่อน

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า เช้าวันนี้ (4 ก.ย. 61) นายพรชัย อุดมทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ที่ถูกนายสุภรณ์ กล่าวพาดพิงถึง ได้เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ครบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายสุภรณ์ ในข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมกับเตรียมที่จะแถลงข่าวตอบโต้นายสุภรณ์ ถึงกรณีที่ถูกกล่าวโจมตีอยู่ในขณะนี้ ในเวลา 11.30 น. ที่โรงแรมแคนทารี โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา

เพื่อไทย ร้องกกต. สอบพรรคการเมืองจูงใจโดยให้ค่าตอบแทน เพื่อหลอกให้สมัครสมาชิกพรรค

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง , นายโกศล ปัทมะ อดีตส.ส. นครราชสีมาพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายอนุสรณ ์เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือพร้อมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ให้ตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง ในจังหวัดนครราชสีมา 

จากการร้องเรียน ของประชาชนในหลายอำเภอ พบว่า หลายกลุ่มหลายพรรคการเมือง พยายามสื่อสารผ่านอสม. เพื่อขอสำเนาบัตรประชาชน นำไปใช้สมัครสมาชิก อ่างนำไปใช้เข้าโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิด เข้าข่ายลักษณะซื้อเสียงล่วงหน้า 

พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มากล่าวโทษ พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ไม่ได้มีเจตนาร้องยุบพรรคการเมือง แต่ที่มายื่นพยานหลักฐานให้กกต. ตรวจสอบ เพราะประชาชนในพื้นที่ไม่สบายใจ มี อสม.ได้รับผลกระทบจริง และอาจขัดพ.ร.ป.พรรคการเมือง

นายประเสริฐเปิดเผยว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวปรากฏในหลายอำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเข้าขายขัดมาตรา 30 พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่ห้ามนำเสนอประโยชน์อื่นใด ซึ่งเป็นการจูงใจในการสมัครสมาชิก 

อดีตส.ส.นครราชสีมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คนที่ทำหน้าที่ เดินขอสำเนาบัตรประชาชน จะได้ค่าตอบแทน ใบละ 10 บาท ใครที่ทำมากจะได้มาก

ด้านนายโกศล ประสงค์จะให้การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นมีความเท่าเทียม แต่เมื่อประชาชนมีการร้องเรียนจึงรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หาผู้กระทำผิดมาลงโทษ พร้อมเปิดเผยว่าแกนนำอสม. เปิดเผยว่ามีข้อเสนอให้ค่าตอบแทนคนละ 1,000 บาท กรณีไปหาสมาชิก ซึ่ง ทุกคนพร้อมจะมาให้การ ว่ารับเงินจากใคร และใครเป็นผู้มอบหมายให้ดำเนินการในลักษณะอย่างไร

อดีตส.ส. นครราชสีมาเชื่อว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวจะมีอีกหลายจังหวัด จึงขอให้กกต.ทำงานอย่างเต็มที่ รวมถึงขอให้ทหารเข้าไปสอดส่องดูแล อย่าปล่อยให้ประชาชนตั้งคำถาม ว่าหน่วยงานราชการหรือเจ้าหน้าที่ทหาร อำนวยความสะดวกหรือช่วยเหลือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งหรือไม่