สภาประชาชนจีนลงมติเห็นชอบให้ยกเลิกกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีจีนด้วยคะแนนเสียง 2,959 ต่อ 2 เสียง ส่วนอีก 3 คนงดออกเสียง ซึ่งการยกเลิกจะทำให้นายสีจิ้นผิงสามารถเป็นประธานาธิบดีจีนต่อไปได้จนกว่าจะเสียชีวิต จากเดิมที่นายสีมีกำหนดต้องลงจากตำแหน่งในปี 2023
นายหลี่ต้าถง อดีตบรรณาธิการหนังสือพิพม์ของรัฐเขียนจดหมายเปิดผนึกวิจารณ์ว่าการแก้ไขให้ นายสีดำรงตำแหน่งได้อย่างไม่มีกำหนดถือเป็นการกระทำของเผด็จการ และการยกเลิกกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีจะเป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความวุ่นวาย เขาจึงต้องแสดงความเห็นคัดค้าน ซึ่งเป็นการคัดค้านอย่างเปิดเผยที่เกิดขึ้นน้อยมากในจีน
อย่างไรก็ตาม สื่อของรัฐพยายามอธิบายกับประชาชนว่าจีนจำเป็นต้องปฏิรูปกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับอีกสองตำแหน่งของนายสี ได้แก่ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางของจีน
นายสีได้ส่งสัญญาณว่าจะอยู่ในอำนาจต่อไป ตั้งแต่ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยการท้าทายธรรมเนียมปฏิบัติของพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วยการไม่เปิดเผยรายชื่อผู้จะขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์คนต่อไป นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ให้มีการจารึกชื่อของนายสี และแนวคิดของเขาลงไปในธรรมนูญพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเทียบเท่ากับรัฐธรรมนูญของจีนเพื่อเป็นหลักในการบริหารประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
การที่ชื่อและแนวคิดของนายสีจิ้นผิงถูกจารึกลงในธรรมนูญพรรคคอมมิวนิสต์เป็นการยกระดับความสำคัญของนายสีจิ้นผิงให้เทียบเท่ากับอดีต ผู้นำสร้างชาติอย่างเหมาเจ๋อตุงและเติ้งเสี่ยวผิงที่ได้รับการจารึกชื่อและแนวคิดลงในรัฐธรรมนูญจีนเช่นกัน
สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์วิเคราะห์ว่าการแก้ไขธรรมนูญแสดงให้เห็นว่าเป้าหมายสูงสุดของของนายสีก็คือ การอยู่ในอำนาจเกินปี 2023 "ด้วยเงื่อนไขของเขาเอง" เพราะในทางทฤษฎีแล้วนายสีไม่จำเป็นต้องแก้ไขธรรมนูญ เพื่อให้ตัวเองเป็นผู้นำต่อไป เพราะตำแหน่งประธานาธิบดีมีอำนาจน้อยที่สุดใน 3 ตำแหน่งที่เขามี
การแก้ไขธรรมนูญทั้ง 21 ข้อมีจุดประสงค์เดียวกันก็คือการเพิ่มความชอบธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์และการ ปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ด้วยการทำให้เบลอเส้นแบ่งระหว่างพรรคกับรัฐ เพราะนายสีเชื่อว่าจีนไม่เพียงต้องการผู้นำที่เข้มแข็งแต่ยังต้องการพรรคที่ เข้มแข็งและสามัคคีกัน ดังนั้น การแก้ไขธรรมนูญจะยุติข้อถกเถียงว่าพรรคอยู่เหนือรัฐหรือไม่
นายหลี่ซู่จง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และกฎหมายของจีนอธิบายว่าข้อถกเถียงเกี่ยว กับความสัมพันธ์ของพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลที่เกิดขึ้นหลังผู้ใหญ่ในพรรค พยายามแยกพรรคกับรัฐออกจากกัน เพื่อป้องกันความผิดพลาดเหมือนช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม แต่การแยกพรรคกับรัฐออกจากกันทำให้ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์อ่อนแอลง ประสิทธิภาพในการบริหารของพรรคก็ลดลงไปด้วย ซึ่งนายสีมองว่านี่เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับพรรคคอมมิวนิสต์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: