ไม่พบผลการค้นหา
ยูเอ็นระบุว่า อาจมีการ 'ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์' ชาวโรฮิงญาในเมียนมาอยู่ในกระบวนการ 'ลบล้างเผ่าพันธุ์' ชาวโรฮิงญา พร้อมเรียกร้องให้เมียนมากอนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความจริง

นายเซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า อาจมีการ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ของเมียนมา ซึ่งทำให้ชาวโรฮิงญามากกว่า 620,000 คนลี้ภัยไปยังบังกลาเทศในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จำนวนชาวโรฮิงญาในค่ายผู้ลี้ภัยค็อกซ์บาซาร์จึงสูงกว่า 830,000 คนแล้ว

ก่อนหน้านี้ นายเซอิดเคยประกาศไปแล้วว่า สถานการณ์ในรัฐยะไข่เป็นการลบล้างเผ่าพันธุ์ แต่ครั้งนี้เขาย้ำว่า การไร้รัฐ การกดขี่และความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญาในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมากลับทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลังมานี้ เขาจึงไม่อาจตัดความเป็นไปได้ว่า อาจมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรัฐยะไข่ แต่ผู้ที่จะตัดสินศัพท์ทางกฎหมายนี้ได้ก็คือศาล

นายเซอิดเรียกร้องให้ทางการเมียนมาอนุญาตเจ้าหน้าที่สอบสวนอาชญากรรมสากลเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยว กับการละเมิดสิทธิมนุษยชนนับตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา และระหว่างที่เมียนมายังคงปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นเข้าพื้นที่ OHCHR ได้ส่งทีมไปยังบังกลาเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา ซึ่งพวกเขาระบุว่า ต้องประสบกับความป่าเถื่อนรุนแรง ทั้งการเผาคนทั้งเป็นในบ้านของพวกเขา การข่มขืนผู้หญิงและเด็กจำนวนมาก และการกราดยิงใส่พลเรือนอย่างไม่เลือกหน้า

นายเซอิดตั้งคำถามต่อประชาคมโลกว่า ยังต้องมีคนทนทุกข์อีกกี่คน กว่าจะมีคนสนใจความทรมานของพวกเขา กว่าที่รัฐบาลเมียนมและประชาคมโลกจะรับรองสถานะพลเมือง รวมถึงสิทธิของพวกเขา พร้อมระบุว่า เราไม่สามารถทนฟังคำกล่าวอ้างสำหรับการเพิกเฉยต่อโศกนาฏกรรมนี้ได้อีกต่อไป