นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัย เนื่องจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ในช่วงระหว่างวันที่ 17-19 ก.ค. 2561 ดังนี้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จังหวัดเลย มีน้ำท่วมในพื้นที่ อำเภอด่านซ้าย น้ำจากลำห้วยหมัน ไหลหลากท่วมพื้นที่การเกษตรและเส้นทางสัญจร ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 0.50 ม. คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วัน
จังหวัดบึงกาฬ มีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ. เมือง อ. เซกา และ อ. บุ่งคล้า ท่วมพื้นที่การเกษตร ชุมชน และเส้นทางสัญจร ทั้งนี้น้ำที่ท่วมในเขต อ.เมือง จะระบายลงสู่ลำห้วยบังบาด และลงแม่น้ำโขง ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
จังหวัดนครพนม มีน้ำไหลบ่าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ. เมือง และ อ.โพนสวรรค์ โดยพื้นที่ในเขต อ.เมือง ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว กรมชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 3 เครื่อง เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำ ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนในเขต อ. โพนสวรรค์ มีน้ำท่วมเส้นทางสัญจรสูงประมาณ 1 เมตรยาว 600 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
จังหวัดร้อยเอ็ด ในเขต อ.เสลภูมิ น้ำล้นตลิ่งลำน้ำยัง และมีการกัดเซาะพนังกั้นน้ำขาด ปัจจุบันปิดจุดขาดเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่น้ำท่วม 21,950 ไร่ ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
จังหวัดยโสธร อ.ป่าติ้ว น้ำล้นตลิ่งในลำสาขาของลำเซบาย น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรประมาณ 2,800 ไร่ ปัจจุบันน้ำในลำเซบายลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรอยู่
ภาคเหนือ
จังหวัดพิษณุโลก ในเขต อ.นครไทยน้ำล้นตลิ่งลำน้ำคาน ท่วมถนนสายบ้านป่าควาย-ห้วยเฮี้ย ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
จังหวัดพิจิตร มีสถานการณ์น้ำหลาก ในเขต อ. ทับคล้อ ปัจจุบันระดับน้ำลดลงแล้ว แต่อาจมีน้ำท่วมขังในบางจุด
จังหวัดนครสวรรค์ ในเขต อ.ไพศาลี น้ำล้นสปิลเวย์ จากอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ ท่วมพื้นที่การเกษตรประมาณ 80 ไร่ แต่ระดับน้ำลดลงแล้ว
ภาคตะวันตก
จังหวัดกาญจนบุรี มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ชุมชน ในเขต อ. สังขละ ขณะนี้ (8.00 น วันที่ 22 ก.ค.) ระดับน้ำลดลงแล้วแต่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในบางจุด
อย่างไรก็ตาม นายทองเปลว กล่าวว่า ตอนนี้กรมชลประทานประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำจากภาวะฝนตกในระยะนี้อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งให้ประชาชนทราบเป็นระยะ