เมื่อวันที่ 12.00 น.วันที่ 23 มกราคม ที่ด้านหน้าสวนสัตว์เขาดิน ฝั่งตรงข้ามอาคารรัฐสภา นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มสตาร์ทอัพพีเพิลและประชาธิปไตยศึกษา พร้อมด้วยประชาชนจำนวนหนึ่ง ได้มาติดตามความคืบหน้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และถอดถอนรัฐบาลคสช.ทั้งคณะตามที่ได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกไว้ถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยนายสิรวิชญ์ อ่านแถลงการณ์ตอนหนึ่งว่า จนถึงบัดนี้ทางประธานสนช. รวมไปถึงสมาชิกสนช. ซึ่งทำหน้าที่แทนสภาผู้แทนราษฎรอยู่เวลานี้ ยังไม่มีการดำเนินการใดๆเลย ทางกลุ่มจึงมายื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าว่า จะดำเนินการเมื่อใด โดยจะยื่นข้อเสนอ 2 ข้อ คือ
1.จะให้เวลาสนช.ภายใน 7 วัน ในการกำหนดเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และลงมติถอดถอนรัฐบาลคสช.ทั้งคณะ
2.หากภายใน 7 วัน หากสนช.ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆทางกลุ่ม จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการกดดันเพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และลงมติถอดถอดนรัฐบาลทั้งคณะ
ต่อมา เวลา 12.45 น.นายนายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะเลขานุการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ออกมารับหนังสือที่หน้าอาคารกองรักษาการณ์ หน้าประตูทางเข้ารัฐสภา โดย นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ความจริง อยากให้สมาชิก สนช.เป็นผู้มารับมากกว่า การที่สนช.ไม่ลงมารับเองแสดงว่า พวกเขาไม่เห็นหัวประชาชน ดังนั้น ตนก็ไม่ง้อ จึงขอยื่นหนังสือผ่านเลขาฯ เพื่อส่งต่อให้สมาชิกรับทราบเพื่อเปิดอภิปรายรัฐบาลคสช.ทั้งคณะ ส่วนเรื่องการขยายเวลาการบังคับใช้ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ออกไป 90 วัน เชื่อว่า มีใบสั่งมาจากคสช. เพราะ คสช.ได้ผลประโยชน์อยู่ในอำนาจต่อไป ขณะที่สนช.ก็ได้รับเงินเดือนต่อไปอีก อย่างไรก็ตาม ถ้าสนช.ไม่เปิดอภิปรายตามข้อเรียกร้องภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ ตนจะกำหนดท่าทีอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ระหว่างที่ตัวเทนกลุ่มสตาร์ทอัพพีเพิลและประชาธิปไตยศึกษา กำลังแลกบัตรที่กองรักษาการณ์ ปรากฎว่า นายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง ที่พยายามมอบนาฬิกาให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินเข้ามาบริเวณภายในอาคารรัฐสภา โดยนำไวนิลสกรีนภาพข่าวนาฬิกาหรู 25 เรือนที่เสนอโดยสื่อต่างประเทศเข้าไปทำกิจกรรมที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าที่ผ่านมาติดตัวมาด้วย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาเห็นก่อน จึงได้เชิญตัวนายเอกชัยออกไปบริเวณด้านนอก