ไม่พบผลการค้นหา
มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และ สสส. เปิดสถิติเด็กถูกข่มขืน เกินครึ่งเกิดจากคนใกล้ตัว ปัจจัยกระตุ้นเกิดจากดื่มแอลกอฮอล์

มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รายงานสถานการณ์ความรุนแรงทางเพศ ประจำปี 2560 โดยรวบรวมสถิติจากการรายงานข่าวทางหนังสือพิมพ์ 13 ฉบับ และสถิติการร้องเรียนผ่านมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล พบว่า มีข่าวความรุนแรงทางเพศ 317 ข่าว และมีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ราย

รายงานระบุว่า ปัจจัยกระตุ้นผู้กระทำส่วนใหญ่ ร้อยละ 31 เกิดจากดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่ร้อยละ 28 อ้างว่ามีอารมณ์ทางเพศ โดยผู้เสียหายเกินครึ่ง หรือร้อยละ 60 ยังเป็นเด็กและเยาวชน อายุ 5-20 ปี โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา

นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่ร้อยละ 53 เป็นคนรู้จักคุ้นเคยและคนในครอบครัว มากกว่าคนแปลกหน้า อีกทั้งนี้ สถานที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ เกิดในที่พักผู้เสียหายด้วย สะท้อนให้เห็นว่า ภัยคุกคามเหล่านี้ ต้องเฝ้าระวังคนใกล้ตัวก่อเหตุมากกว่าเดิม

มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า บุคคลใกล้ตัวนั้น ครอบคลุมถึง รุ่นพี่ เจ้านาย ครู ลุง น้า อา หรือแม้กระทั่งพ่อ โดยคนเหล่านี้อาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ ล่อลวง ข่มขู่กระทำความรุนแรงทางเพศต่างๆ และมีการกระทำซ้ำๆ หลายครั้ง จนสร้างผลกระทบตามมา ทำให้เกิดอาการหวาดผวา กลัว ขาดความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิต ลุกลามไปถึงการฆ่าตัวตาย 

สิ่งที่ยังเป็นปัญหา คือ ผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะอายที่จะเปิดเผย แบกรับผลกระทบไว้เพียงลำพัง ผู้ก่อเหตุจึงย่ามใจและกระทำซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบข้อบกพร่องของกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นทาง โดยเฉพาะในชั้นสอบสวน ที่ยังขาดความเป็นมิตรกับผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม เห็นว่า กฎหมายไทยค่อนข้างเข้มงวดเรื่องความรุนแรงทางเพศแล้ว แต่ผู้ปฏิบัติเอง ต้องดำเนินการอย่างจริงจัง

ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เห็นว่า ต้องปรับวิธีคิดใหม่ ไม่ควรตีกรอบไว้ที่ผู้หญิงหรือเด็กควรดูแลตัวเอง  แต่ต้องกดดันหรือเรียกร้องให้ผู้กระทำมีความรับผิดชอบ กระบวนการยุติธรรมไม่ควรเปิดช่องให้มีไกล่เกลี่ยยอมความ จนมีแนวโน้มปล่อยให้ลอยนวล

ด้านกระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรบรรจุเป็นหลักสูตร สอนให้เด็กเปลี่ยนระบบความคิดที่มีความรับผิดชอบต่อเรื่องเพศมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกับสถาบันในครอบครัว ควรปลูกฝังให้เด็กรู้จักเรื่องเพศ ซึ่งมีผลดีกว่า ที่เด็กจะออกไปเรียนรู้ด้วยตัวเองจากนอกบ้าน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :