นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ถ้าดูตามกรอบเวลาที่กำหนดในรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 4 ฉบับแล้ว คาดว่าการเลือกตั้งทั่วไปอาจจะเกิดขึ้นได้จนถึงเดือน พ.ค. ปี 2562 แต่กฎหมายก็ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้เวลาเต็มที่ตามที่กำหนดไว้ สามารถทำให้เร็วกว่าได้ แต่ทำให้ช้ากว่าไม่ได้ แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่จำเป็นต้องลากยาวไปถึงเดือน พ.ค.ปี 2562 ซึ่งการกำหนดวันเลือกตั้งในเดือน ก.พ. ปี 2562 เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และพรรคการเมืองพร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งอยู่แล้ว
"ประสบการณ์การจัดการเลือกตั้งของไทย ก็ไม่เคยใช้เวลาถึง 150 วัน เพื่อจัดการเลือกตั้ง ที่ผ่านมาเรามักใช้เวลาเลือกตั้งภายใน 45 วัน หรือ 60 วัน ถ้าคราวนี้จะเพิ่มวันขึ้นมาโดยข้ออ้างว่า กกต. และพรรคการเมือง มีกิจกรรมต้องทำมากกว่าเมื่อก่อน ก็พอรับได้ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึง 150 วัน เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งภายในเดือนก.พ. 2562 จึงเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสม" นายองอาจ ระบุ
ส่วนที่กังวลว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่53/2560 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองจะกระทบต่อโรดแมปหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาอย่างไร พรรคการเมืองก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้นอยู่แล้วซึ่งส่วนมากจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกพรรค สาขาพรรคและการประชุมใหญ่ของพรรค ในส่วนการทำไพรมารีโหวตนั้นมุ่งหวังให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมในการเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ดังนั้น ควรมีฐานสมาชิกพรรคที่มากพอ แต่ถ้าสมาชิกพรรคเพียง 100 คน หรือ 50 คน มาเลือกผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค คงหวังจะเห็นการทำไพรมารีโหวตให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายได้ยาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง