ไม่พบผลการค้นหา
ก.แรงงาน และ ก.ยุติธรรม เกาหลี หารือข้อราชการด้านแรงงาน 3 ประเด็น ป้องกันการจ้างงานผิดกฎหมาย และการแก้ไขปัญหาแรงงานไทย

นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายโอซู คิม ปลัดกระทรวงยุติธรรม สาธารณรัฐเกาหลี พร้อมด้วย นายซึงโม คู ผู้อำนวยการกองอาชญากรรมระหว่างประเทศ สาธารณรัฐเกาหลี และคณะ ที่เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการ ที่กระทรวงแรงงาน โดยมีประเด็นหารือ 3 ประเด็น คือ ความพยายามเพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย โดยในข้อนี้ทางกระทรวงแรงงานจะกำกับและติดตามให้กลไกการทำงานของฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ทำงานร่วมกับ หน่วยงานฝ่ายเกาหลีอย่างเข้มข้น ด้วยมาตรการป้องกัน โดยการสร้างการรับรู้ และมาตรการปราบปราม ด้วยการจับกุมนายหน้าที่จัดหางานไม่ได้รับอนุญาต 

การร่าง MOU เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในการโยกย้ายถิ่นฐานแบบปกติ โดยการป้องกันการจ้างงานผิดกฎหมาย (MOU on Facilitating Regular Migration by Preventing Illegal Hiring) ซึ่งกระทรวงแรงงานยืนยันท่าทีการทำร่างบันทึกความเข้าใจ ที่ควรจะเน้นการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเนื่องจากกฎ/ระเบียบเป็นอุปสรรคของการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการตามที่ฝ่ายเกาหลีขยายเวลาผ่อนคลายกฎระเบียบในการอนุญาตให้แรงงานต่างชาติผิดกฎหมายเดินทางกลับประเทศต้นทางโดยสมัครใจภายในเดือนมีนาคม 2562 

และการแก้ไขปัญหาแรงงานไทยเดินทางไปทำงานและพำนักอยู่เกินกำหนด ขอให้ฝ่ายไทยช่วยดูแลและคัดกรองแรงงานไทยที่ประสงค์เดินทางไปทำงานในประเทศเกาหลี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ฝ่ายเกาหลีจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและเป็นการลดปัญหาที่ไม่พึงประสงค์เกี่ยวเนื่องกับการจ้างงานผิดกฎหมาย เช่น ปัญหาการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของแรงงานผิดกฎหมาย เป็นต้น



รมว.แรงงาน มอบเงินสมทบบำเหน็จชราภาพแก่ทายาท แรงงานไทยเสียชีวิตที่เกาหลีใต้

นอกจากนี้ในวันเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบเงินสมทบกรณีบำเหน็จชราภาพตาม พ.ร.บ.กองทุนประกันสังคม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 106,156.28 บาท แก่ทายาท ที่เป็นบิดา มารดา และบุตร 2 คน ของนางสาวศรีนวล ประวัน แรงงานไทยซึ่งมีภูมิลำเนาเป็นชาวอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา และเสียชีวิตที่ประเทศเกาหลีใต้เนื่องจากเข้าไปทำงานเป็นแม่บ้านที่เมืองแทกู ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.60 และเสียชีวิตเนื่องจากล้มในห้องน้ำ โดยนางสาวศรีนวลฯ มีประวัติความเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เมื่อวันที่ 22 มี.ค.44 และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนเมื่อวันที่ 10 พ.ย.60 มีเงินสมทบกรณีบำเหน็จชราภาพ จำนวน 186 งวด เป็นเงิน 106,156.28 บาท 

20181102022350.JPG


พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามข้อมูลของเจ้าหน้าที่ทราบว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค.61 นายสมชาย ประวัน น้องชายของ น.ส.ศรีนวลฯ ผู้ตาย ได้ร้องขอความช่วยเหลือที่สำนักงานใหญ่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ กรณี น.ส.ศรีนวลฯ ซึ่งเป็นพี่สาวเข้าไปทำงานเป็นแม่บ้านที่เมืองแทกูในประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.60 และเสียชีวิตเนื่องจากล้มในห้องน้ำ โดยนายสมชายฯ ร้องขอความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้กับทางโรงพยาบาลที่เกาหลีใต้ เพื่อนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนา

ทั้งนี้ นางสาวพินยุดา แจ่มจันทร์ศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ได้สอบถามจากฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ทราบข้อเท็จจริงว่า ฝ่ายกงสุลได้รับเรื่องไว้เมื่อวันที่ 31 ต.ค.61 และเซ็นมอบอำนาจให้บริษัทเป็นผู้จัดการศพเรียบร้อยแล้ว โดยได้ติดต่อญาติอย่างต่อเนื่อง และกำลังจะดำเนินการเรื่องเผาศพ แต่ไม่มีผู้ใดรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจัดการศพ ส่วนกรณีญาติอ้างว่า ได้สื่อสารกับสถานทูตไม่รู้เรื่องนั้น ฝ่ายกงสุลแจ้งว่าไม่ใช่สถานทูตไทยในเกาหลี ทั้งนี้ หากญาติไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อจัดการศพ สามารถติดต่อกรมการกงสุลเพื่อกู้ยืมเงินก่อนและชดคืนได้ในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายแรงงานฯ จะสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตจากฝ่ายกงสุลต่อไป