ที่จังหวัดหนองคาย ได้เกิดฝนตกหนัก ลมแรง และลูกเห็บตกในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในเขตตำบลกองนาง อ.ท่าบ่อ ได้มีลูกเห็บขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 2 ซม.ตกลงมาพร้อมกับสายฝนเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้น บ้านเรือนประชาชนใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีเชียงใหม่ , อำเภอรัตนวาปี อำเภอเมือง และ อำเภอท่าบ่อ ได้รับความเสียหาย 275 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่ ได้เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น โดยได้ช่วยกันขนย้ายเศษส่วนของบ้านเรือนที่พัง ซ่อมแซมเบื้องต้นบ้านที่เสียหายไม่มาก และตัดต้นไม้ที่ล้มทับ
ขณะที่ จังหวัดอุดรธานี ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองในเขตเทศบาลตำบลนางัว อ.น้ำโสม นานประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นพายุฝนได้เป็นพายุลูกเห็บ ตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง นานกว่า 30 นาทีเช่นกัน รถยนต์และหลังคาบ้านเรือน ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ด้านนายสามารถ หมั่นนอก นายอำเภอน้ำโสม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล รวมถึงเทศบาลต่างๆ เร่งสำรวจความเสียหายทันที ที่ฝนหยุดตก เพื่อรวบรวมความเสียหาย รายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี รับทราบต่อไป
เช่นเดียวกับที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ มีฝนฟ้าคะนองตกลงมาในพื้นที่และได้มีพายุพัดถล่มบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ใน 4 อำเภอ คือ อ.ท่าคันโท, อ.ห้วยเม็ก, อ.ยางตลาด และ อ.คำม่วง มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 87 หลังคาเรือน
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งหาแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาเป็นการเบื้องต้นแล้ว โดยเฉพาะการซ่อมแซมตัวบ้าน เนื่องจากในช่วงนี้ยังมีฝนตกหนักอยู่แต่บ้านไหนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักขอให้แจ้งผู้นำท้องถิ่นเพื่อนำกำลังมาช่วยเหลือซ่อมแซมตัวบ้านไปก่อนตั้งต้นเพื่อไม่ให้ข้าวของภายในตัวบ้านไม่เกิดความเสียหายเพิ่มไปมากกว่านี้ ขณะนี้ ยังประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังพายุอย่างต่อเนื่องเพราะในช่วงนี้ยังมีฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ช่วงระหว่างวันที่ 23 – 25 เม.ย. นี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 20 จังหวัด 45 อำเภอ 72 ตำบล 136 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,042 หลังคาเรือน 1,384 คน แยกเป็น ภาคเหนือ 8 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด
พร้อมกันนี้ ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นโดยด่วนแล้ว
ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อาจเกิดพายุฤดูร้อนในช่วงวันที่ 26 – 28 เม.ย. นี้ ทำให้มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศ ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :
กรมอุตุฯเตือนพายุฤดูร้อน 24-27 เม.ย. นี้