ไม่พบผลการค้นหา
ดีเอสไอ มีความเห็นทางคดีพิเศษ กรณีการกล่าวโทษมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ในอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) และกรรมการ ในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน กรณีเงินบริจาคจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เตรียมนำเงินที่ติดตามคืนได้ ส่งคืนสมาชิกสหกรณ์ฯ

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผอ.กองการเงินการธนาคาร และนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการ สำนักการสอบสวน 3 ร่วมแถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีฟอกเงินกับมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงในพระอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) และกรรมการมูลนิธิฯ ที่ได้รับเงินจำนวน 125 ล้านบาท จากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก กระทำทุจริต เซ็นต์เช็คสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด 

โดย พ.ต.อ. ไพสิฐ กล่าวว่า ดีเอสไอได้ดำเนินคดีจนสามารถติดตามเงินสดจำนวน 1,500 ล้านบาท และติดตามทรัพย์อีก 299 รายการ มูลค่า 3,800 ล้านบาท รวมทรัพย์ที่สามารถติดตามคืนได้ทั้งสิ้น 5,300 ล้านบาท เพื่อส่งคืนให้กับสหกรณ์ฯ นำไปเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิก 50,000 ราย      

อย่างไรก็ตาม ทรัพย์ที่นายศุภชัยยักยอกมาจากสหกรณ์ฯ เกิดขึ้น ระหว่างปี 52-56 มีมากกว่า 12,000 ล้านบาท มีทั้งนำไปซื้อหุ้นลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซื้อที่ดินทั้งในและต่างจังหวัดทำให้ต้องขยายผลการสอบสวนจากเดิม 12 คดีเพิ่มอีก 11 คดี และมีแนวโน้มที่จะมีคดีฟอกเงินเพิ่มขึ้นตามเส้นทางการเงินที่ตรวจพบ จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถติดตามทรัพย์คืนให้กับสมาชิกได้อีก ในส่วนของอาคารลูกโลก วิหารคต และอาคารบุญรักษา รวมถึงอาคารเวิล์คพีซวัลเลย์ จ.นครราชสีมา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้อายัดไว้แล้ว ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล หากศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน อาจขายทอดตลาดหรือให้ส่วนราชการเข้าใช้ประโยชน์ ในส่วนคดีของนายอนันต์ อัศวโภคิน ที่เกี่ยวข้องกับอาคารบุญรักษา ดีเอสไอยังสอบสวนอยู่ ซึ่งต้องให้ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงด้วย

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวอีกว่า ส่วนการติดตามตัวพระธัมมชโยมาดำเนินคดีข้อหาสบคบฟอกเงินนั้น ขณะนี้มีการติดตามเส้นทางการเงิน การสื่อสาร บุคคลใกล้ชิด และประวัติการรักษาตัว ก็ไม่พบความเคลื่อนไหวทั้งในและต่างประเทศ แต่ยืนยันว่ามีเบาะแสเข้ามาตลอด ดีเอสไอก็ตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งมาทั้งหมด 

03.jpg

ด้านนายขจรศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สิน ของ วัดพระธรรมกาย รวมถึงวัดสาขาในต่างจังหวัดมีเฉพาะที่ดิน เฉพาะที่เป็นธรณีสงฆ์ 196 ไร่ ส่วนที่เหลือทั้งหมดถือครองในชื่อมูลนิธิฯ ทั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อปรากฎข้อเท็จจริงว่ามูลนิธิอุบาสิกาจันทร์ฯ กระทำความผิดในคดีฟอกเงิน เนื่องจากหลักฐานในทางอาญาพบว่าเงินในสหกรณ์เข้ามาในมูลนิธิฯ และกระจายออกไป อัยการสำนักสอบสวนจึงเสนอให้ดีเอสไอส่งคำร้องถึงอัยการสูงสุดขอให้ดำเนินการในทางแพ่ง โดยร้องต่อศาลให้มีคำสั่งยกเลิกมูลนิธิฯ และให้ทรัพย์สินของมูลนิธิตกเป็นของแผ่นดินตามประมวลกฎหมาย ป.แพ่ง มาตรา 134 เนื่องจากเงินที่ออกจากสหกรณ์ฯ ไม่ได้มีเพียงรูปแบบเช็ค 27 ใบ แต่ยังออกมาในรูปแบบเงินสดและทรัพย์สินอื่นอีกจำนวนมาก เพื่อกวาดล้างคดีที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ฯ ให้จบในคราวเดียว เนื่องจากวัดพระธรรมการยังมีมูลนิธิที่ดำเนินการในลักษณะเดียวกันอีกหลายแห่ง ทั้งนี้ การสอบสวนทุกคดีทำอย่างต่อเนื่องและมีความเคลื่อนไหว แต่จากหลักฐานที่ปรากฏเป็นผลให้ต้องขยายผลการสอบสวนไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก

พ.ต.ท.ปกรณ์ กล่าวว่า ทางการสอบสวนมีข้อมูลเพียงพอแจ้งข้อกล่าวหานางวรรณา จิรกิติ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ และน.ส.อารีพันธุ์ ตรีอนุสรณ์ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิฯ ผู้ถูกกล่าวหา ในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (3), 5, 9 และ 60 โดยนางวรรณา ผู้ถูกกล่าวหา ได้เข้าชี้แจงต่อสู้ข้อกล่าวหาและยื่นพยานหลักฐานกับทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษแล้ว คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้สรุปสำนวนการสอบสวนและมีความเห็นทางคดี เพื่อจะได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ถูกกล่าวหาไปยังพนักงานอัยการคดีพิเศษพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนนางอารีพันธุ์ได้เสียชีวิต ซึ่งการสอบสวนได้รับการยืนยันจากนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์แล้วว่าเสียชีวิตจริง. และ ผลการสอบสวนพบว่า แผนประทุษกรรมเข้าลักษณะความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน โดยเป็นการบริจาคเงินให้กับพระธัมมชโยแล้วส่งต่อเงินไปให้มูลนิธิอุบาสิกาจันทร์ฯ ใช้สร้างอาคารลูกโลก 7-8 ร้อยล้านบาท และสร้างวิหารคตอีก 7-8 ร้อยล้าน และมีเงินบริจาคตรงเข้ามูลนิธิ 325 ล้านบาท รวมถึงเงินอยู่ในพระสงฆ์เครือข่าย 30 รูปนำไปซื้อที่ดินและเล่นหุ้น ซึ่งมีการตรวจสอบพบ

02.jpg