กลุ่มติดอาวุธขับรถตู้พุ่งชนตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ด้านหน้าสถานีตำรวจในจังหวัดรีเยา ทางตะวันออกของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ช่วงเช้าวันนี้ (16 พ.ค.) โดยผู้ก่อเหตุ 4 รายลงจากรถพร้อมดาบยาว เตรียมทำร้ายผู้คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงชายทั้งสี่คน ส่วนคนขับรถหลบหนีไปหลังเกิดเหตุ และตำรวจได้ติดตามไปจับกุมสำเร็จในเวลาต่อมา

เว็บไซต์จาการ์ตาโกลบของอินโดนีเซีย รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ระบุว่าผู้ก่อเหตุสวมเสื้อติดวัตถุระเบิด ทำให้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดต้องเข้าตรวจสอบพื้นที่ ส่วนนักข่าว 2 คนซึ่งถูกชนจนได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว

ขณะที่เดอะจาการ์ตาโพสต์รายงานว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดรีเยาเป็นการก่อความรุนแรงครั้งที่ 4 ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ของอินโดนีเซีย โดยเหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการระเบิดฆ่าตัวตายที่โบสถ์คริสต์ 3 แห่งในเมืองสุราบายา ซึ่งกลุ่มก่อเหตุเป็นครอบครัวที่ประกอบด้วยสมาชิก 6 คน คือ พ่อ แม่ ลูกชายสองคน อายุ 18 และ 16 ปี กับลูกสาวอีกสองคนอายุ 12 และ 9 ปี

เหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองสิโดอาร์โจ ช่วงกลางดึกวันที่ 13 พ.ค. และผลสอบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุพยายามประกอบระเบิดแต่เกิดผิดพลาดจนทำให้ตัวเองเสียชีวิต ส่วนเหตุการณ์ที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์เข้าไปยังสถานีตำรวจในเมืองสุราบายาและจุดชนวนระเบิด ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 25 ราย แบ่งเป็นผู้ก่อเหตุ 13 ราย

จาการ์ตาโพสต์ระบุว่า กลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุทั้งหมดคือ 'เจมาห์ อันชารุต เดาลาห์' (JAD) ซึ่งเป็นเครือข่ายกลุ่มมุสลิมสายสุดโต่งที่มีแนวคิดสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มติดอาวุธไอเอสในตะวันออกกลาง และเริ่มปฏิบัติการโจมตีหลายจุดพร้อมกันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่าจะกลุ่มดังกล่าวจะพยายามก่อเหตุอีกในอนาคต

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียจึงได้มีคำสั่งเพิ่มความเข้มงวดด้านการรักษาความปลอดภัยและยกระดับการทำงานของหน่วยข่าวกรองและหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย Densus 88 เพื่อป้องกันการก่อเหตุของกลุ่ม JAD

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายซ้ำอีกที่อินโดนีเซีย
• ครอบครัวอินโดฯเป็นผู้ลงมือระเบิดโบสถ์คริสต์ในเมืองสุราบายา