เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคณะได้มาพบกับสมาชิกพรรคซึ่งเป็นอดีต ส.ส.ภาคอีสาน 14 จังหวัด กว่า 70 คน เพื่อชี้แจงอุดมการณ์ จุดยืนและนโยบายของพรรค พปชร.
จากนั้นนายสนธิรัตน์ และคณะ ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่แก่งน้ำต้อน ต.บ้านหว้า และ ต.ดอนช้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อรับฟังปัญหาและรับข้อเสนอเพื่อนำมาจัดทำนโยบายทั้งในส่วนที่เป็นนโยบายภาพรวมทั้งประเทศ เช่น การต่อยอดโครงการประชารัฐต่างๆ โครงการบัตรสวัสดิการภาครัฐ การยกระดับราคาสินค้าเกษตร การลดรายจ่ายเพิ่มรายได้เกษตรกร เป็นต้น และนโยบายในระดับภาค เช่น โครงการสร้างแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ระบบขนส่งในจังหวัดหัวเมืองและเชื่อมต่อจังหวัดในภูมิภาค นับเป็นการลงพื้นที่ภาคอีสานอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่สองในช่วงสองสัปดาห์ติดต่อกันของแกนนำสำคัญของพรรค พปชร. เพื่อหวังสร้างฐานคะแนนนิยมของพรรคอย่างเต็มที่
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า มาขอนแก่นครั้งนี้เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อช่วยกันคิดในเรื่องนโยบายของพรรคที่เป็นประโยชน์กับประชาชนภาคอีสาน 14 จังหวัด โดยเฉพาะกลุ่มที่มาในวันนี้เป็นความหวังของพรรค พปชร.อย่างมาก และหวังว่าอีกไม่นานพรรค พปชร. จะเข้าไปอยู่ในหัวใจของประชาชนคนภาคอีสานได้ และเชื่อมั่นว่ากระแสของพรรค พปชร.จะได้รับตอบจากพี่น้องชาวอีสานอย่างท่วมท้นแน่นอน
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เชื่อว่าพรรคจะได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนภาคอีสานมากพอสมควร แม้ว่าจะออกสตาร์ท ได้ไม่นาน ประเมินเบื้องต้นมีเสียงตอบรับอย่างดีจากประชาชนภาคอีสาน แต่ยังเร็วเกินไปที่จะพูดว่าได้ ส.ส.ทั้งประเทศมากน้อยขนาดไหน ทั้งนี้พรรคได้ทำการบ้านทีละเรื่อง โดยเฉพาะภาคอีสาน จึงหวังว่าเป็นหนึ่งในพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลตรงตามเป้าหมายของพรรค ส่วนพรรคจะชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมาเป็นนายกฯ สมัยที่สอง หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาเพราะจะเลือกใครมาเป็นนายกฯต้องอยู่ในกระบวนการของพรรค
ส่วน พปชร.มีความหวังจะได้ ส.ส.ในภาคอีสานมากน้อยขนาดไหน นายสนธิรัตน์ตอบว่า พรรคเชื่อมั่นว่าจะได้ ส.ส.สมความตั้งใจของพรรคที่วางเป้าเอาไว้ เพราะพรรคได้ให้ความสำคัญกับพื้นที่ภาคอีสานอย่างมาก และพรรค พปชร.ได้มีอดีต ส.ส.จากพรรคอื่นๆเข้ามาร่วมกับพรรคเป็นจำนวนมาก เรื่องนี้ไม่มีปัญหา เพราะนักการเมืองที่เข้าสู่พรรค พปชร. เพราะเชื่อในอุดมการณ์ทางการเมืองอย่างที่เขาตั้งใจได้ และ พปชร.เท่านั้นที่จะทำได้ จึงทำให้มีพี่น้องอดีต ส.ส.จากต่างพรรคเข้ามาร่วมกับพรรค พปชร.เป็นจำนวนมากดังกล่าว ดังนั้น เมื่อผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมืองกับประชาชน ผมจะไปช่วยพวกเขา โดยใช้เวลาวันเสาร์ - อาทิตย์ ที่เป็นวันหยุดเท่านั้น ซึ่งตนจะไม่ใช้เวลาราชการอย่างเด็ดขาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง