นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบาย พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ ว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐได้จัดสรรโควต้าให้กับพรรคการเมืองต่างๆแล้วนั้น เชื่อว่าคงเป็นความเข้าใจกันในส่วนของพรรคพลังประชารัฐเอง แต่ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนานั้นยังไม่ได้มีการพูดคุย ลงรายละเอียด และเท่าที่ตน ได้พูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นทราบว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยใดๆทั้งนั้น มีแต่เพียงพูดคุยกันไว้หลวมๆถึงแนวทางการทำงาน แต่ในรายละเอียดยังไม่ได้มีใครได้รับการติดต่อจากพรรคพลังประชารัฐว่าเป็นอย่างไร ยังไม่มีสายต่อมา และในเวลานี้ก็ยังไม่มีการนัดแนะพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกันแต่อย่างใด ตนเองก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากใคร
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าเป็นการพูดคุยหลวมๆนั้น คือคุยกับแกนนำพรรคใดบ้าง แกนนำพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า “มีการติดต่อมาทั้ง 2 ข้าง แต่ยังไม่มีการพูดคุยกันอย่างเป็นกิจลักษณะว่าตกลงกันอย่างนั้นอย่างนี้ แค่เป็นการชักชวนเบื้องต้นจากทั้งสองข้าง และผมก็เชื่อว่าทางพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยเองก็โดนทั้งสองข้างเทียบเชิญแน่นอน อย่างไรก็ตามในวันเสาร์ที่ 25 พ.ค.นี้จะมีการเลือกประธานสภา เราก็ยังไม่รู้เลยว่าแต่ละข้างจะเสนอใคร ทั้งนี้พรรคชาติไทยพัฒนาเองจะต้องมีการประชุมพรรคเหมือนกันเพื่อหารือว่าพรรคจะไปในทิศทางใด ซึ่งกำลังหารือกับหัวหน้าพรรค ก็ยังดูกันอยู่ว่าจะอย่างไร อาจจะเป็นวันที่ 23 พ.ค.ที่จะประชุม”
เมื่อถูกเทียบเชิญทั้ง 2 ข้าง แต่ละข้างยื่นข้อเสนออะไรให้กับพรรคชาติไทยพัฒนาบ้าง นายวราวุธ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเสนอว่าจะเอาอะไรก็บอก ไม่มีปัญหา ในส่วนพรรคพลังประชารัฐก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้กันอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่ได้คอนเฟิร์มใดๆทั้งสิ้น เมื่อถามว่าพรรคชาติไทยพัฒนามีแนวทางอย่างไรในการตัดสินใจว่าเลือกข้างใด นายวราวุธ กล่าวว่า ตนอยากดูว่านโยบายที่พรรคชาติไทยพัฒนาให้ไว้กับประชาชนทั้ง7ด้าน อาทิ เรื่องการเกษตร การศึกษา การสาธารณสุข และสังคม ในการหาเสียงเลือกตั้งนั้น มีส่วนไหนจะสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้ในรัฐบาล นำไปผนวกกับนโยบายรัฐบาลได้หรือไม่ หากสามารถทำตามนั้นได้ เราก็ยินดี
เมื่อถามถึงข่าวที่ว่าพรรคพลังประชารัฐเสนอโควต้ารัฐมนตรี 2 เก้าอี้ให้พรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ถ้า เทียบกับจำนวนส.ส. ที่เรามีอยู่ 10 ที่นั่งนั้นก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะตอนนี้เสียงปริ่มกันอยู่ประมาณ 250 และอัตราส่วนอยู่ที่ประมาณ 7:1 หากปัดเศษกันแล้วให้เกียรติกันแล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจ แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการคอนเฟิร์มมาจากพรรคพลังประชารัฐแต่อย่างใดว่าชาติไทยพัฒนาได้ 2 ที่นั่งอย่างที่มีกระแส ส่วนกระเเสข่าวความเป็นไปได้เรื่องขั้วที่ 3 ส่วนตัวคิดว่าไม่มี คงมี2 ขั้วเท่านั้น เพราะขั้วที่ 3 จะอยู่เองก็อยู่ไม่ได้ ขั้วที่1 และขั้วที่2 จะอยู่เองก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน
ดังนั้นจะเกิดขั้วที่ 3 ย่อมเป็นไปไม่ได้ จึงไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เมื่อถามต่อว่า มองปรากฏการณ์ที่โลกโซเชียลหนุนให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า เชื่อมั่นว่ามีคนกลุ่มใหญ่ที่ต้องการเห็นนายธนาธร เป็นนายกรัฐมนตรี มิฉะนั้นแล้วพรรคอนาคตใหม่คงจะไม่ได้คะแนนท่วมท้นมากขนาดนี้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่พิสูจน์ได้จริง แต่เมื่อเป็นกระแสของโลกโซเชียลออกมาอย่างนั้นตนเองยังต้องฟังหูไว้หูเพราะบนโลกออนไลน์ไม่เหมือนคะแนนแห่งความเป็นจริง และการสร้างกระแสบนโลกออนไลน์นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :