ซาราห์ แซนเดอร์ โฆษกประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตกลงที่จะลงนามในร่างงบประมาณ ฉบับประนีประนอม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สหรัฐฯ ตกอยู่ในภาวะชัตดาวน์อีกครั้ง แต่ขณะเดียวกันทรัมป์ก็เตรียมที่จะประกาศภาวะฉุกเฉิน เพื่อนำงบประมาณของกองทัพ มาใช้สร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ได้ให้สัญญาไว้กับประชาชนว่าจะทำ และเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องแนวชายแดนและป้องกันประเทศ
ร่างงบประมาณ ฉบับประนีประนอมที่พรรคเดโมแครตนำเสนอ อนุมัติงบ 1,300 ล้านดอลลาร์ ให้มีการสร้างรั้วกั้นแนวชายแดน แต่ไม่ใช่การสร้างกำแพงอย่างที่ทรัมป์ต้องการ ซึ่งต้องใช้งบประมาณมากถึง 5,700 ล้านดอลลาร์
แนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรสจากพรรคเดโมแครต และ ชัค ชูเมอร์ แกนนำฝ่ายค้านของพรรคเดโมแครต ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเพื่อประณามความเคลื่อนไหวของทรัมป์ครั้งนี้ว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เคารพต่อกฎหมาย และเป็นการใช้อำนาจของประธานาธิบดีในทางที่ผิด และยังถือว่าทรัมป์ทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนด้วยว่าจะให้รัฐบาลเม็กซิโกเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการสร้างกำแพง แต่เมื่อทำไม่ได้ ก็กลับมาใช้งบประมาณที่มาจากภาษีของชาวอเมริกันแทน ซึ่งหากทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินจริง ก็อาจจะต้องมีการไปต่อสู้กันในชั้นศาล