ไม่พบผลการค้นหา
ข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ก็เหมือน 'น้ำหมึก' ที่ถูกเทลงไปใน 'แหล่งน้ำ' เราจะจัดระเบียบหรือเอาน้ำหมึกกลับเข้าขวดอีกครั้งได้อย่างไร?

บทความจาก MOTHERBOARD ของ Vice รายงานอ้างอิงเอกสารหลุดภายในบริษัทเฟซบุ๊กซึ่งชี้ว่า เฟซบุ๊กยอมรับว่าปัญหาสำคัญตอนนี้คือการที่ทางบริษัทไม่สามารถรู้ได้ว่าข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กนั้นสามารถกระจายไปที่ใดบนโลกได้บ้าง และไม่รู้กระทั่งว่าขณะนี้ระบบของเฟซบุ๊กกำลังทำอะไรกับข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานทั้งหมดบ้าง

"ลองนึกภาพว่าเราถือขวดน้ำหมึกในมือ หมึกในขวดคือส่วนผสมของข้อมูลทุกประเภท ข้อมูลส่วนตัวของบุคคลที่สาม(3PD) ข้อมูลส่วนตัวของบุคคลที่หนึ่ง(1PD) ข้อมูลส่วนตัวประเภทเซนซิทีฟ(SCD)..."

"...คุณเทหมึกนั้นลงไปในน้ำ (ซึ่งเปรียบเสมือนระบบข้อมูลเปิดและวัฒนธรรมแบบเปิดของเรา) และมันก็กระจายตัว ... ไปทุกที่ ... แล้วคุณจะเทหมึกเหล่านั้นกลับเข้าไปในขวดอีกได้อย่างไร คุณจะจัดระเบียบมันอีกครั้งได้อย่างไร" เอกสารดังกล่าวระบุ

ขณะที่วิศวกรของเฟซบุ๊กระบุอย่างชัดเจนในเอกสารหลุดว่า "เราไม่มีการควบคุมในระดับที่มากเพียงพอ หรือความสามารถที่จะอธิบายได้ว่าระบบของเฟซบุ๊กใช้งานข้อมูลทั้งหมดของยูสเซอร์อย่างไร เราจึงไม่สามารถเปลี่ยนนโยบายควบคุมได้อย่างมั่นใจ หรือให้คำมั่นได้ว่า 'เราจะไม่ใช้ข้อมูลชุด X เพื่อจุดประสงค์แบบ Y นะ' แต่นั่นคือสิ่งที่หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐต้องการให้เราทำให้ได้ ซึ่งมันเพิ่มความเสี่ยงให้เราในการสร้างข้อผิดพลาดที่มากขึ้น" 

ความเห็นนี้ทำให้เราทราบว่าแม้แต่วิศวกรของเฟซบุ๊กเองก็ยังยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากสำหรับพวกเขาเช่นกันในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งาน และติดตามว่าข้อมูลทั้งหมดนั้นกระจายไปที่ใดบ้างเมื่อชุดข้อมูลถูกป้อนเข้าไปในระบบของเฟซบุ๊กแล้ว ซึ่งเฟซบุ๊กเรียกปัญหานี้เป็นการภายในว่า "Data Lineage"

หลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลของหลายประเทศพยายามคุมเข้มจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนตัวในลักษณะนี้ ในปี 2561 กฎคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของสหภาพยุโรป หรือ GDPR กำหนดให้เฟซบุ๊กสร้างเมนูการตั้งค่าใหม่โดยผู้ใช้งานในยุโรปเข้ามาควบคุมการยอมรับคุกกี้ของตัวเองได้ตลอดเวลา 

ข้อมูลส่วนตัวทุกชิ้น เช่น ศาสนา สถานที่ ต้องถูกเก็บไปใช้เพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น ไม่สามารถใช้ซ้ำหรือส่งต่อให้บุคคลหรือองค์กรที่สามได้ เช่น การส่งให้กับบริษัทด้านการตลาดเพื่อยิงโฆษณาหาผู้ใช้งาน

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายให้สัมภาษณ์กับทาง Motherboard ว่า GDPR มีคำสั่งห้ามอย่างเฉพาะเจาะจงว่าการใช้ข้อมูลด้วยจุดประสงค์อื่นอีกครั้งนั้นไม่สามารถทำได้ และเอกสารที่หลุดมานี้ชี้ว่าเฟซบุ๊กอาจจะไม่มีความสามารถในการ 'ลิมิต' รูปแบบการใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานตามกฎที่ภาพรัฐประกาศด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม Vice ระบุว่าโฆษกของเฟซบุ๊กชี้ว่าเอกสารดังกล่าวไม่ได้แสดงว่าทางบริษัทไม่สามารถทำตามกฎด้านความเป็นส่วนตัวได้แต่อย่างใด

ชุดข้อมูลนี้ ทาง MOTHERBOARD ได้ทำการพิมพ์ขึ้นมาใหม่ เพื่อปกป้องแหล่งที่มาต้นทางของข้อมูล ( คลิกอ่านเอกสารหลุดได้ที่: documentcloud.org/documents/21716382-facebook-data-lineage-internal-document )

#VoiceOnline