นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งองคมนตรี เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งองคมนตรี ตามประกาศ ลงวันที่ 1 ต.ค. 2561 แล้วนั้น บัดนี้ ทรงพระราชดำริเห็นเป็นการสมควรแต่งตั้งองคมนตรีเพิ่มเติมขึ้น อาศัยอำนาจตามความใน ม.10 และ ม.11 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "นายนุรักษ์ มาประณีต" เป็นองคมนตรี ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปนั้น
โดยหลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง "นายนุรักษ์ มาประณีต" เป็นองคมนตรี "นายปิยบุตร แสงกนกกุล" แกนนำคณะก้าวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กถึงผลงานของนายนุรักษ์ เมื่อครั้งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยเจตนาเน้นไปที่ กรณีการยุบพรรคของขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลปัจจุบัน ตั้งแต่ "พรรคไทยรักไทย" ต่อเนื่องมาจนถึง "ยุบพรรคอนาคตใหม่" และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคอีก 10 ปี
แม้โพสต์ของ "นายปิยบุตร" จะไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ มากไปกว่าความพยายามจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลงานการวินิจฉัยในคดียุบพรรค และคดีทางการเมืองที่นายนุรักษ์ มีส่วนร่วมในองค์คณะ ซึ่งมีผลกระทบในทางการเมืองสูง และสร้างความไม่พอใจให้กับบุคคลในพรรคการเมืองบางฝ่ายมาตลอด แต่สิ่งที่นายปิยบุตรไม่ยอมพูดถึงหรืออธิบายให้สังคมรับรู้ไปในคราวเดียวกันก็คือ พฤติการณ์และการกระทำของนักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆ เหล่านั้น รวมทั้งพรรคอนาคตใหม่ด้วยนั้นเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย "ขัดรัฐธรรมนูญ" หรือไม่อย่างไรด้วย ซึ่งนายปิยบุตรเคยเป็นอาจารย์สอนกฎหมายรัฐธรรมนูญย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่า พฤติการณ์และการกระทำใดที่เข้าข่ายต้องถูกยุบพรรคและหรือตัดสิทธิทางการเมืองตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ อย่าแสร้งเขียนหรือตีตัวประเภทเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น เพราะในยุคสารสนเทศโซเชียลมีเดียเยี่ยงนี้ นักการเมืองทำอะไร คิดอะไร ชาวบ้านเข้ารู้ทันกันหมดแล้ว
ที่สำคัญ การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งองคมนตรีนั้นเป็นไปตามบทบัญญัติที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.10 ประกอบ ม.11 บัญญัติไว้ทุกประการว่าให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัยโดยชอบด้วยแล้ว ไม่ควรที่จะมีบุคคลใดไปก้าวล่วงพระราชอำนาจดังกล่าวของพระองค์ท่าน ให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ไม่เช่นนั้นอาจหมิ่นเหม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญาเข้าไปอีก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อผู้วิจารณ์หรือผู้ใดที่จะใช้กุศโลบายตีวัวกระทบคราดใดๆ ทั้งสิ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง