เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังในเขต อ.กบินทร์บุรี, อ.ศรีมหาโพธิ, อ.นาดี จังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงนี้เกษตรกรต้องพากันเร่งขุดถอนมันขายเพื่อหนีฝน หลังจากต้นอาทิตย์ที่ผ่านมาพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี โดยเฉพาะเขต อ.กบินทร์บุรี เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังจึงจำเป็นเร่งขุดถอนมันขายก่อนกำหนด ส่งผลให้ราคาที่ต่ำอยู่แล้ว ยิ่งตกต่ำกว่าเดิม เนื่องจากเปอร์เซ็นต์แป้งไม่ได้เกณฑ์
นายเพ็ชรสิน ชำนาญปืน อายุ 47 ปี ซึ่งอยู่ที่ ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ระบุว่า ในพื้นที่ฝนตกหนักติดต่อกันมาร่วมอาทิตย์ ทำให้เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง ที่ปลูกมันในที่ราบลุ่มได้รับความเสียหาย ฝนตกชุก ดินชุ่มน้ำตลอด ทำให้หัวมันสำปะหลังเริ่มเน่าเสีย จึงเร่งถอนส่งขายก่อนที่จะเสียหายมากกว่านี้ ทั้งที่มันสำปะหลังนั้นยังไม่ครบอายุเก็บเกี่ยว
"ก็ต้องเร่งไถ ขุดขาย แม้จะขายได้ราคาแค่ 1.59 -1.60 บาท เปอร์เซ็นต์แป้ง 18 เปอร์เซ็นต์ก็ต้องขาย ปีนี้อาจขาดทุน แต่ก็ต้องรีบขาย เพราะไม่แน่ใจว่าฝนจะตกอีกกี่วัน หากว่าไม่รีบถอนขายจะขาดทุนไปมากกว่านี้ เพราะหัวมันเริ่มเน่าแล้ว"
ก่อนหน้านี้ไม่นาน เกษตรกรไร่มันสำปะหลังในไทยก็เพิ่งได้รับผลกระทบจากไวรัสใบด่างที่ระบาดในไร่มันสำปะหลัง โดยเฉพาะ จ.สระแก้ว ทำให้มี ส.ส.ตั้งกระทู้ถามสดนายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่ารัฐบาลได้ช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรหรือไม่
นายกฤษฎา ชี้แจงว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีพื้นที่ 8 ล้านกว่าไร่ที่ประสบปัญหาโรคระบาดไวรัสใบด่างในมันสำปะหลัง การเยียวยาจะใช้ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการช่วยผู้ประสบภัยพิบัติจะชดเชยไร่ละ 1,140 บาท ซึ่งเดือนก่อนกระทรวงเกษตรฯได้เสนอคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังแล้วและจะอนุมัติในอัตราไร่ละ3,000 บาท ที่เสียหายในวงเงินแรก20 ล้านบาทจะดำเนินการจ่ายให้