ไม่พบผลการค้นหา
‘สุรชาติ’ ควง ‘สรวงศ์’ ลงพื้นที่เคหะทุ่งสองห้อง อัด ครม.ทุ่มงบพันล้าน แก้ปัญหาของแพงไม่ตรงจุด วอนรัฐเร่งแก้ที่ต้นเหตุ

ที่ชุมชนเคหะทุ่งสองห้อง สุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขตหลักสี่-จตุจักร เบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย สรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่-จตุจักร มาร่วมช่วยผู้สมัครหาเสียงในวันนี้ด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการลงพื้นที่ ประชาชนให้การต้อนรับ สุรชาติ และทีมงานพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี บางส่วนเอ่ยปากว่าจำ สุรชาติ ได้ พร้อมกล่าวให้กำลังใจ เหตุเพราะ สุรชาติ เคยเป็น ส.ส. อยู่หลายสมัย

สุรชาติ.jpg

สุรชาติ กล่าวว่า ตนไม่ได้ตั้งเป้าหมายพิเศษในการหาเสียง เพราะลงพื้นที่เป็นปกติอยู่แล้ว อย่างเช่นในพื้นที่ชุมชนเคหะทุ่งสองห้องนี้ ตนได้มาเยี่ยมเยียนตลอด แต่การจะใช้เวลา 20 กว่าวันตั้งแต่วันที่จับเบอร์ผู้สมัคร (6 ม.ค.) จนถึงก่อนวันเลือกตั้งในการหาเสียงให้ครบทุกพื้นที่ของเขตหลักสี่-จตุจักรนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะเป็นพื้นที่ใหญ่จึงต้องใช้เวลา ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าหลังการเลือกตั้ง ผลจะเป็นอย่างไร ตนก็จะยังอยู่เคียงข้างประชาชน เพียงแต่ในช่วงนี้จะพยายามลงพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ขอประชาชนที่ไม่เห็นหน้าตนช่วงนี้อย่าเพิ่งน้อยใจ

สุรชาติ.jpg

ในส่วนของ มติคณะรัฐมนตรีล่าสุดที่ทุ่มงบกลางกว่าพันล้านบาท ในการดำเนินโครงการพาณิชย์ลดราคา เพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าแพงนั้น สุรชาติ มองว่า เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของรัฐบาล ไม่ช่วยเศรษฐกิจในภาพรวม หรือเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งรัฐบาลควรแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะยาวด้วยการกลับไปแก้ที่ต้นเหตุ เช่น โรคระบาด ปริมาณการส่งออก รวมถึงกลไกการค้า การนำงบกลางไปใช้กับโครงการลดราคาสินค้าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และแก้ไขได้เฉพาะกลุ่ม เฉพาะวันเท่านั้น เพราะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา 

สุรชาติ.jpg

ด้าน สรวงศ์ กล่าวย้ำถึงการเฝ้าระวังกรณีทุจริตเลือกตั้งซ่อมว่า จากการลงพื้นที่ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อม ตนได้รับรายงานจากประชาชนตลอดเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง แต่หากสื่อ หรือ กกต. อยากทราบว่าตรงไหนมีการทุจริต ก็ขอให้ไปถามประชาชนเองจะได้คำตอบดีที่สุด พร้อมหวังว่า การให้ข้อมูลของประชาชนจะนำไปสู่การดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำผิดกฎหมายอย่างจริงจังเสียที เพื่อให้การเมืองสะอาด และถือเป็นกำลังใจของคนทำงานในพื้นที่