ไม่พบผลการค้นหา
เครือข่ายอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย รวมตัวเข้ายื่นหนังสือถึง กกพ. เรียกร้องให้ยุติโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ด้านแกนนำเผยถูกทหารขู่ใช้อำนาจ แต่ไม่กลัว

กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร และเครือข่ายอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.น้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ กว่า 200 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เขต 5 อุบลราชธานี โดยมี ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเขต 5 อุบลราชธานี ลงมารับหนังสือ

นางมะลิจิตร เอกตาแสง อายุ 58 ปี กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง กล่าวว่า มายื่นหนังสือในประเด็นเมื่อวันที่ 15 มกราคม 62 ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานได้ลงที่เพื่อมารับฟังข้อมูลข้อเท็จจริง แต่การลงพื้นที่ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานที่ผ่านไม่ได้มีความจริงใจที่จะลงพื้นที่จริง

ดังนั้นชาวบ้านจึงมายื่นหนังสือให้คณะกรรมการฯ ระงับการพิจารณาออกใบอนุญาตโรงไฟฟ้าชีวมวลก่อน เพราะ กกพ. ทำผิดข้อตกลงกับชาวบ้าน

“การเดินทางมาวันนี้ก็ยังมีทหารมาพูดในทำนองจะใช้มาตรา 44 กับผู้ที่จะมายื่นหนังสือเพื่อควบคุมการชุมนุม เราก็ไม่ได้กลัวอะไรหรอกเพราะที่ผ่านมาและวันนี้เราก็แจ้งการชุมนุมเสมอ ทหารจะมากล่าวอย่างนี้ไม่ได้”

ทั้งนี้ทางกลุ่มได้เสนอให้ กกพ.มีคำตอบให้ชาวบ้านภายใน 7 วัน


S__30965791.jpg

ด้านนายปฏิภาน แก้วรินขวา ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเขต 5 อุบลราชธานี หลังลงมารับหนังสือกับกลุ่มที่คัดค้านก็ได้กล่าวว่า หนังสือที่ทางกลุ่มยื่นวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะรับหนังสือและส่งต่อไปให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานส่วนกลาง เนื่องจากตนไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ

หลังจากนั้นนางสาวนวพร เนินทราย เลขากลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็งได้ อ่านแถลงการณ์ โดยมีเนื้อหาดังนี้

หยุดพิจารณาออกใบอนุญาตโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 61 เมกะวัตต์ของบริษัท มิตรผล ไบโอ-เพาเวอร์(อำนาจเจริญ) จำกัด ให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานลงพื้นที่อย่าทำผิดข้อตกลงกับชาวบ้าน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้เดินทางลงพื้นที่รับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงกรณีการคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 61 เมกะวัตต์ ของบริษัท มิตรผล ไบโอ-เพาเวอร์ (อำนาจเจริญ) จำกัด ในรัศมี 5 กิโลเมตร พื้นที่ตำบลเชียงเพ็ง จังหวัดยโสธร และพื้นที่ตำบลน้ำปลีก จังหวัดอำนาจเจริญ แต่แทนที่จะลงไปดูพื้นที่จริงและพบกับชาวบ้านที่รออยู่ในพื้นที่ กกพ. กลับลงพื้นที่ไปหากลุ่มสนับสนุนโรงไฟฟ้าชีวมวลก่อน

กลุ่มชาวบ้านเรียกร้องมาโดยตลอดจึงมีเวลาน้อยในการชี้แจงข้อมูล และผลการศึกษาของคณะทำงานศึกษาข้อเท็จจริงการมีส่วนร่วมของจังหวัดยโสธรได้สรุปชัดแล้วว่าร้อยละ 90% ใน 5 หมู่บ้าน ต.เชียงเพ็งที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร ไม่ได้มีส่วนร่วมและไม่เคยรับรู้ข้อมูลข่าวสารมาก่อน รวมถึงทำให้ไม่ได้ลงดูพื้นที่อ่อนไหวอย่างละเอียด และพื้นที่ๆ มีข้อพิพาทที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงต่อกลุ่มที่คัดค้านและสนับสนุนในหลายพื้นที่และหลายครั้งที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การเรียกร้องของชาวบ้านให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานลงพื้นที่จริงก็เพื่อจะได้รับรู้ถึงทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ที่ชุมชนสองฝั่งลำน้ำเซบายได้พึ่งพาอาศัยมาตลอดชั่วชีวิต เป็นเหตุให้ชาวบ้านต้องออกมาปกป้องชุมชน ปกป้องทรัพยากร ปกป้องวิถีชีวิต แต่ กกพ. ทำผิดข้อตกลงกับชาวบ้านและแสดงถึงความไม่จริงใจโดยอ้างว่า “หลงทาง”

ดังนั้นวันนี้ทางกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง และเครือข่ายอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.น้ำปลีก จึงขอเรียกร้องให้

1. นายปฏิภาณ แก้วรินขวา ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 5 ได้ลงพื้นที่ไปดูพื้นที่จริงตามชาวบ้านเรียกร้อง

2. ให้ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเขต 5 ทำหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานส่วนกลางให้เป็นลายลักษณ์อักษรว่าให้ระงับการพิจารณาออกไปอนุญาตโรงไฟฟ้าชีวมวลไว้ก่อน จนกว่าจะลงพื้นที่ และรอข้อสรุปจากคณะศึกษาข้อเท็จจริงกรณีโรงไฟฟ้าชีวมวล จังหวัดยโสธร ที่กำลังลงพื้นที่เก็บข้อมูลในประเด็นด้านทรัพยากร ด้านสุขภาพ และด้านการมีส่วนร่วม

3. ให้ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเขต 5 ชี้แจงข้อมูลที่ได้นำเสนอต่อส่วนกลางว่ามีประเด็นอะไรบ้าง

4. ให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานวางตัวเป็นกลาง

มาวันนี้ถึงยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเพราะไม่มีอำนาจตัดสินใจแต่เราจะให้เวลา 7 วัน และพี่น้องก็จะเตรียมเดินทางไปชุมนุมหน้าทำเนียบแน่นอนเพื่อให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานยกเลิกการพิจารณาโรงไฟฟ้าชีวมวลอย่างเด็ดขาด