ที่บริเวณทางแยกตลาดสุวรรณเกลียวทอง ริมทางหลวง 202 ถนนนิเวศรัตน์ เขตเทศบาลเมืองบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา นายโกศล ปัทมะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส นครราชสีมา เขต 5 พรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุนได้นำทีมช่างขึ้นไปปลดป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ซึ่งพิมพ์ข้อความว่า“พรรคเพื่อไทย จะไม่ปล่อยให้ประเทศไทย ล้าหลัง ล้มเหลว ถดถอย สิ้นหวัง” ลงจากโครงป้ายคัทเอ้าท์ดังกล่าว
โดยนายโกศล ปัทมะ เปิดเผยว่า ป้ายดังกล่าวเป็นของตนเองที่ใช้ในการหาเสียงและจุดติดตั้งป้ายหาเสียงดังกล่าวทำเลที่ดีมาก เป็นเขตชุมชน แต่ละวันมีประชาชนสัญจรผ่านนับหมื่นคน ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคได้ขออนุญาตเจ้าของพื้นที่เพื่อติดตั้งป้ายหาเสียง ซึ่งได้รับการเอื้อเฟื้อเป็นอย่างดี
แต่สาเหตุที่ต้องมาปลดป้ายออก เนื่องจากได้มีกลุ่มคนผู้มีอำนาจมาสั่งการไม่ให้เจ้าของที่ร่วมมือกับทางพรรคเพื่อไทย และให้ปลดป้ายดังกล่าวลง ทำให้เกิดความไม่สบายใจของเจ้าของพื้นที่ เมื่อตนทราบเรื่องจึงได้ให้เจ้าหน้าที่มาปลดป้ายลง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและเจ้าของพื้นที่จะได้สบายใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตามป้ายที่ตนปลดออกไปนั้นจะนำไปติดที่อื่นต่อไป แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมพูดความจริงแล้วผู้เกี่ยวข้องรับไม่ได้ทั้งๆ ที่ชาวบ้านทั่วไปรับได้
โฆษกเพื่อไทยวอนผู้มีอำนาจยุติการกระทำ เพื่อการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็น กรณีมือมืดใช้อำนาจบีบบังคับให้เจ้าของที่ ปลดป้ายหาเสียงของผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวานที่ผ่านมา (26 ธ.ค.) ว่า สะท้อนให้เห็นว่ายิ่งใกล้วันเลือกตั้งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีการใช้อำนาจ ที่ไม่ถูกต้องเช่นนี้ก็จะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยมีเป้าหมายอยู่ที่พรรคเพื่อไทย
นอกจากเรื่องการปลดป้ายของพรรคเพื่อไทยแล้ว ยังทราบมาอีกว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงในพื้นที่ภาคอีสาน เรียกข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น และตัวแทนชาวบ้าน มาพูดคุย ในลักษณะสั่งการให้การสนับสนุนพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของรัฐบาล ขณะเดียวกันผู้สมัครในสังกัดของพรรคผู้มีอำนาจ ก็ใช้วิธีการโทรศัพท์ไปข่มขู่ทีมงานพรรคเพื่อไทย
นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า ได้รับแจ้งจากผู้สมัครของพรรคในหลายพื้นที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปตรวจค้นบ้านของทีมงานของพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุดังกล่าวจึงขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจหยุดการกระทำดังกล่าวโดยทันที เพราะจะทำให้การเลือกตั้งไม่เสรีและไม่เป็นธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง