ไม่พบผลการค้นหา
เส้นทาง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยิ่งใหญ่ใน พปชร. เป้าต่อไปคือการขึ้นแท่นรัฐมนตรีว่าการ เพื่อเตรียมตัวนำพรรค สู้เลือกตั้ง ปี 65

ณ เวลานี้ต้องยอมรับว่า บารมีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มีมากล้นในพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) หลังที่ประชุมใหญ่พรรค พปชร.ลงมติเลือกให้นั่งเป็นเลขาธิการพรรค ตำแหน่งซึ่งเปรียบเหมือนพ่อบ้าน และเป็นตำแหน่งที่ต้องอาศัยความมากบารมี และคอนเนคชั่นรอบด้านเพื่อได้มันมา

วันนี้ในพรรค พปชร. ร.อ.ธรรมนัส เป็นรองแค่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เท่านั้น และยังเป็นคนที่ "บิ๊กป้อม" ไว้วางใจ เรียกใช้งานใหญ่ๆอย่างสม่ำเสมอ

ย้อนกลับไปจะเห็นว่า พลังของ "ก๊วนธรรมนัส" ในพรรคพลังประชารัฐ เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ภายหลังการปรับเปลี่ยนตำแหน่งคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อเดือน ส.ค.2563

547425.jpg

ครั้งนั้น “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” คนสนิทของ "ธรรมนัส" ได้ขยับจากตำแหน่งโฆษกรัฐบาล ขึ้นเป็น รมช.แรงงาน และไม่นานนัก สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ผู้มากบารมีเมืองเพชรบูรณ์ ก็เข้ามาสมทบร่วมทีมธรรมนัสอีกคน

ขณะที่ "วิรัช รัตนเศรษฐ" ประธานวิปรัฐบาล ก็เกิดแตกคอกัน สุชาติ ชมกลิ่น หลังการปรับ ครม.ครั้งนั้น โดย สุชาติ ได้เป็น รมช.แรงงาน และย้ายไปจับมือร่วมก๊กสามมิตร ขณะที่ วิรัช ก็เลือกเข้ามาอยู่ร่วม “ทีมธรรมนัส” ทำให้ทีมธรรมนัสดูเเกร่งขึ้นทันตาเห็น

สำหรับการยึดตำแหน่งเลขาธิการพรรค พปชร.ครั้งนี้ เป็นการสู้กันระหว่าง “ก๊วนธรรมนัส” และ “กลุ่มสามมิตร” โดยสื่อมวลชนเรียกว่า เป็นการแข่งขันระหว่าง ก๊วน 4 ช. และ 4 ว.

4 ช ประกอบด้วย ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และ อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ลูกชายของวิรัช

ขณะที่ 4 ว คือกลุ่มสามมิตร ที่นำโดย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม อนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี และ สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

พปชร.

แม้กลุ่มสามมิตร จะมีจำนวน ส.ส.อยู่ในมือมาก แต่ก็ไม่อาจต้านพลังของกลุ่มธรรมนัสได้ เพราะถือเป็นก๊วนที่มีความใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร มากที่สุด

ธรรมนัส ได้รับความไว้วางใจจากบิ๊กป้อมอย่างมาก โดยเฉพาะจากผลงานการทำพื้นที่เลือกตั้งซ่อมชนะทุกครั้ง แม้หลายพื้นที่ผู้แทนคนเดิมจะไม่ใช่คนของพรรค พปชร. แต่ธรรมนัส ก็สามารถทำให้ผู้สมัครจากพรรค พปชร.พลิกมาชนะจนได้

เช่น การเลือกตั้งซ่อมเขต 7 ขอนแก่น สมศักดิ์ คุณเงิน ผู้สมัครจากพรรค พปชร. สามารถเอาชนะ ธนิก มาสีพิทักษ์ จากพรรคเพื่อไทย โดย ส.ส.คนเดิมคือ นวัธ เตาะเจริญสุข พรรคเพื่อไทย

ขณะที่เลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราช นายกองตรี อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ จากพรรค พปชร. ก็เอาชนะ พงษ์สินธุ์ เสนพงศ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ โดย ส.ส.คนเดิมคือ เทพไท เสนพงศ์ จากพรรคประชาธิปัตย์

พปชร.

การวางตัวธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค พปชร. “บิ๊กป้อม” ยังมองไปถึงการเลือกตั้งใหญ่ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในกลางปี 2565 ด้วย โดยขณะนี้ ทั้ง 'ธรรมนัส' และ วิรัช ต่างขยับทำการเมืองเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งในอนาคต โดยมีความพยายามดูด ส.ส.อีสานจากพรรคเพื่อไทย เข้ามาอยู่ในสังกัด พปชร.ให้ได้มากที่สุด

ประกอบกับการชงแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใช้สูตรบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ก็ทำให้พรรค พปชร.เชื่อว่า จะยิ่งใหญ่กว่าพรรคเพื่อไทยได้ในไม่ช้า เพราะจะได้ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อย่างเป็นกอบเป็นกำ เป็นพรรคอันดับหนึ่งได้ด้วยพลังดูด

จึงไม่ใช่แปลกที่ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ภายหลังย้ายมาสังกัดพรรค พปชร.จากการชักชวนของ วิรัช  จะบอกว่า จะมี ส.ส.เพื่อไทย ย้ายเข้า พปชร.อีกแน่นอนในอนาคต

แต่ก่อนที่จะไปถึงตรงนั้น เป้าหมายของ 'ธรรมนัส' คือ ต้องได้นั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ โดยก๊วนธรรมนัส เห็นว่า จะให้ดีต้องนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะเป็นกระทรวงที่ทำงานระดับพื้นที่ทั่วถึงทั้งประเทศ

แต่ความยากคือตอนนี้มี “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เฝ้าเก้าอี้นี้อยู่ เส้นทางสู่ มท.1 ของธรรมนัส จึงไม่ง่าย เว้นแต่ “บิ๊กป้อม” จะอาสาเจรจากับน้องป๊อกให้

เมื่อมาดูโครงการใหม่ของพรรค พปชร. ก็จะเห็นว่า ก๊วนธรรมนัส ล้วนอยู่ในตำแหน่งสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็น นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นเหรัญญิกพรรค บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ เป็นนายทะเบียน มีกรรมการบริหารพรรค เช่น พรรคสันติ พร้อมพัฒน์ วิรัช รัตนเศรษฐ ไผ่ ลิกค์ สัมพันธ์ มะยูโซะ 

ส่วนกลุ่มสามมิตร มีกรรมการบริหารพรรค เช่น สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมศักดิ์ เทพสุทิน อนุชา นาคาศัย สุชาติ ชมกลิ่น สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ แต่ไม่มีชื่อของ พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ กรรมการบริหารสัดส่วนของกลุ่มสามมิตรในกรรมการบริหารพรรคชุดก่อน

พปชร.

ภายหลังศาลรัฐธรรนูญ วินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ขัดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. และรัฐมนตรี จากการต้องคำพิพากษาของศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย ในคดีนำเข้ายาเสพติด ทำให้ "บิ๊กป้อม" เห็นว่า ธรรมนัส เคลียร์ ไร้มลทินมัวหมอง เหมาะที่จะขับเคลื่อน พปชร.ต่อไป

ร.อ.ธรรมนัส ยอมรับว่า การปรับโครงสร้างพรรคครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งใหญ่ในอนาคต โดยมีความเชื่อมั่นในพรรค พปชร.อย่างยิ่ง ดังจะเห็นจากการเลือกตั้งซ่อมหลายครั้งที่ผ่านมา ที่ พปชร.ไม่แพ้เลือกตั้งเลยสักครั้ง จึงทำให้มั่นใจว่าจะสามารถเป็นพรรคอันดับ 1 และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้อีกอย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง