การเมือง
"หลายครั้งที่โดนปรับทัศนคติ แต่ก็ไม่เคยท้อ" : แม่สมปอง นักสู้แห่งลุ่มน้ำมูล
สมัชชาคนจนเปิดเวทีสัญจร สะท้อนเสียงถึงฝ่ายการเมือง ล้อมวงถกปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านจากเขื่อนปากมูล และเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี โดยมีตัวแทนพรรคอนาคตใหม่และพรรคประชาชาติ เข้าร่วมลงพื้นที่และรับฟังปัญหาของชาวบ้าน
นางสมปอง เวียงจันทร์ แกนนำการต่อสู้ในพื้นที่ ได้เล่าปัญหาว่า กว่า 20 ปี ที่ผ่านมานับแต่เขื่อนได้ก่อสร้างเสร็จในปี 2537 โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมาก รวมถึงการสร้างปัญหาความขัดแย้งของคนในพื้นที่ เกิดข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านด้วยกัน เพราะการเปิดปิดเขื่อนทำให้ชาวบ้านอีกฝั่งไม่สามารถหาปลา ซึ่งถือเป็นอาชีพหลักของคนที่นี่มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ หลายครั้งที่ร้องเรียนหรือต่อสู้เคลื่อนไหวกับรัฐบาลร่วม 20 ครม. ก็ไม่เคยมีใครสนใจจะแก้ปัญหาหรือเยียวยากับผลกระทบท่ีเกิดขึ้นอย่างแท้จริง ปัญหาอีกสิ่งสำคัญคือการเข้าไปโหวตในคณะกรรมการที่จัดตั้งเพื่อหาทางออก แต่สมัชชาคนจนมีเพียง 2 เสียง จึงเห็นมันเป็นความไม่เท่าเทียมเพราะอีกกว่า 30 เสียงต่างเป็นคนจากหน่วยงานรัฐ
ส่วนในรัฐบาลปัจจุบัน ก็ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยกับอาวุธยุทธปกรณ์ อ้างความมั่นคงของรัฐ แต่ไม่สนใจความมั่นคงชาวบ้าน ซึ่งถือเป็นฐานรากสำคัญ ดังนั้นชาวบ้านจึงรวมตัวกันในนามสมัชชาคนจนเคลื่อนไหว และหลายครั้งที่โดนปรับทัศนคติในค่ายทหาร แต่ก็ไม่เคยท้อที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิวิถีชีวิตและการเยียวยาจากภาครัฐ วันนี้ไม่ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ต้องผลักดันเข้าสู่สภาเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากชาวบ้าน
"น้ำท่วมปากมูลก็เหมือนน้ำท่วมยุ้งฉางพวกเรา เราไม่ใช่เสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง แต่เราคือผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการรัฐ" นักต่อสู้แห่งลุ่มน้ำมูล กล่าว
- สมปอง เวียงจันทร์ แกนนำการต่อสู้ในพื้นที่
นอกจากนี้ในการล้อมวงแลกเปลี่ยนปัญหา ตัวแทนชาวบ้านหลายหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ อาทิ ปัญหาที่ดินทำกิน เอกสารสิทธิในพื้นที่ สปก. และผลกระทบจาก พ.ร.บ.ประมง ซึ่งต่างเห็นพ้องให้ช่วยกันผลักดันข้อเสนอของชาวบ้านไม่ใช่ฟังความเห็นจากคนภายนอกพื้นที่ พร้อมเรียกร้องให้มีการเปิดประตูเขื่อนโดยถาวร และยึดแผนฟื้นฟู ตามมติครม. วันที่ 29 เมษายน 2540 ชดเชยที่ดินจากการสร้างเขื่อนปากมูล 15 ไร่ เช่นเดียวกับฟื้นฟูพื้นที่ทำกินให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนสิรินธร
- คำพอง เทพาคำ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่
ด้านนายคำพอง เทพาคำ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้ตอบรับข้อเสนอของชาวบ้าน ในการตั้งกระทู้เรื่องดังกล่าว พร้อมระบุว่า หลังจากได้ลงพื้นที่ สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการน้ำที่มีข้อบกพร่อง ความล่าช้าของการเปิดประตูเขื่อนอาจจะขยายวงรอบ ซึ่งผลกระทบครั้งนี้ไม่ใช่แค่พื้นที่เขื่อนปากมูล คนในหลายลุ่มน้ำในภาคอีสานก็เดือดร้อนอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวจะต้องมีการแก้กฎหมายเปิดช่องกระจายอำนาจ คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อหาออกต้องมีสัดส่วนของชาวบ้านเข้าไป เพื่อการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน ส่วนทางพรรคอนาคตใหม่ก็ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อติดตามปัญหาที่กระทบกับชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง "ส่วนการต่อสู้นอกสภา ก็ขอให้พี่น้องอย่ายอมแพ้ จงยืนหยัดเพื่อวิถีชีวิตและอำนาจที่คนลุ่มน้ำมูลควรได้รับ" ส.ส.อนาคตใหม่กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
