นายเทอดธนัท สีเขียว อดีตผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เปรียบรัฐบาล "ประยุทธ์ 2" เป็นเรือเหล็กลำใหญ่ ไม่ใช่เรือแป๊ะที่ทำด้วยไม้นั้น พอจะมองเห็นภาพถึงความแข็งแกร่ง ทนทานของเหล็ก รวมทั้งการเป็นสนิม ตนตั้งข้อสังเกตว่า เรือเหล็ก ที่ พลเอกประยุทธ์เป็นกัปตัน น่าจะแล่นไปไม่ถึงเป้าหมาย เพราะนอกจาก กัปตันขาดภาวะผู้นำที่ดีแล้วลูกเรือที่มาจากทุกสารทิศ ก็เอาแต่แย่งกันกิน จนเรือโครงเครง ซ้ำยังไม่เกรงใจ กัปตันเท่าที่ควร
นายเทอดธนัทกล่าวอีกว่า ข้อดีของเหล็กคือความแข็งแกร่ง คงทน แต่ก็ขออย่าให้กัปตันคนนี้ คงทนหรือทนทานต่อความละอายใจในการใช้อำนาจเหมือนกับเมื่อครั้งเป็นกัปตันเรือแป๊ะ ใช้มาตรา 44 พร่ำเพรื่อขาด ซึ่งหลักนิติธรรม สร้างปัญหามาจนถึงปัจจุบันและต่อเนื่องไปถึงอนาคต ส่วนข้อเสียคือการเกิดสนิมเนื้อในนั้นก็เห็นด้วย เพราะเป็นธรรมชาติของเหล็ก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นายวิษณุ ไม่ได้คิดถึงและไม่ได้พูดก็คือ เรือที่ทำด้วยเหล็ก มีโอกาสถูกฟ้าผ่าได้ง่ายๆ เพราะเหล็กเป็นตัวนำหรือตัวล่อไฟฟ้าชั้นดี เปรียบได้กับการสืบทอดอำนาจ คสช.ที่พลเอกประยุทธ์วางกลไกเครือข่ายต่างๆ ไว้พร้อมสรรพ มีรัฐธรรมนูญเป็นกำแพงป้องกัน ได้สร้างปัญหาความไม่ชอบธรรมไว้มากมายตลอด 5 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งไม่มีหลักประกันว่า ครม.ชุดใหม่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และทำให้ ประชาชนมีเงินทองใช้จ่ายไม่เป็นหนี้เป็นสินขึ้นมาได้
"ทั้งกัปตันและลูกเรือ หลายคนมีคดีทุจริต มีข้อครหาทางด้านจริยธรรม ไม่มีความรู้ความสามารถ ทำให้รัฐนาวาลำนี้ ไม่ต่างไปจากเรือเหล็กขี้กะโล้โท้ หรือเป็นแค่ "เศษเหล็ก" เอาเรื่องเอาราวไม่ได้ แล่นโคลงเคลงไปมาเป็นที่น่าหวาดเสียว อาจถูกฟ้าผ่าหรือไม่ก็คนในเรือทะเลาะทุบตีกันเอง ทำให้เรือล่มแล้วจมลงใต้น้ำก่อนจะเทียบท่า" นายเทอดธนัท กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :