นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของกรมการแพทย์ ว่า กรมการแพทย์มีสถาบันและโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคที่ยุ่งยากซับซ้อน ได้ปรับบทบาทหน้าที่ของกรม ด้วยแนวคิดเชี่ยวชาญขั้นสูงสู่ภูมิภาค นำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อประชาชน (The Best forthe Most) เน้นการดำเนินงานที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง มอบนโยบายให้เพิ่มการกระจายความรู้ความเชี่ยวชาญไปสู่ภูมิภาคและโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
นายสาธิต กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ได้ให้กรมการแพทย์เร่งดำเนินการคือนำเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการแพทย์มาปฏิรูประบบการทำงานของโรงพยาบาล โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent : AI)ช่วยในการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรค สร้างเครือข่ายการรักษาและให้บริการเฉพาะด้านครบวงจร นำระบบการให้บริการสุขภาพทางไกล (Telehealth Co-creation) เชื่อมโยงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้านด้วยโปรแกรมวิเคราะห์และคัดกรองข้อมูลอัตโนมัติ มีระบบฐานข้อมูล เช่น ข้อมูลสุขภาพผู้ป่วย ระบบนัดหมาย และสามารถปรึกษาทางไกลผ่านระบบวิดีโอกับแพทย์เฉพาะทางที่โรงพยาบาลศูนย์ ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้รับบริการทางการแพทย์เฉพาะทางได้อย่างเท่าเทียม ลดภาระการเดินทางและลดแออัดในโรงพยาบาล รวมถึงใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาระบบบริการ ด้วยระบบคิวออนไลน์ ให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายอย่างไร้รอยต่อ
“ผมขอเป็นกำลังใจ และพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของกรมการแพทย์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลศูนย์ความเชี่ยวชาญและโรงพยาบาลทั่วประเทศเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับการรักษาเฉพาะทางที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ให้มีสุขภาพที่ดี เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายภาครัฐ” นายสาธิตกล่าว
กรมการแพทย์ มีเป้าหมายการดำเนินงานใน 3 ด้าน คือ การแพทย์ที่เป็นเลิศและสมคุณค่า แพทย์และบุคลากรสาธารณสุขมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีการบริหารจัดการที่ดีเป็นองค์กรสมรรถนะสูง และ 4 ยุทธศาสตร์ คือ สร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายบริการและวิชาการทางการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ พัฒนาระบบดูแลสุขภาพแบบครบวงจรอย่างไร้รอยต่อ พัฒนาแพทย์และบุคลากรด้านสุขภาพให้มีความเชี่ยวชาญและเพียงพอกับความต้องการของประเทศ และพัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่อสนับสนุนให้เกิดความเป็นเลิศ