พชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหาร และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ อ้างว่าทำงานมาเท่าไหร่ อะไรสำเร็จมาบ้าง อีกทั้งยังท้าให้เทียบผลงาน 8 ปี 10 ปี จึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้หันกลับไปมองผลงานที่ตนเองได้ทำไว้ ซึ่งมีแต่ความล้มเหลวทั้งนั้น โดยอยากจะนำตัวเลขเศรษฐกิจที่พิสูจน์ได้ชัดเจนมาชี้ให้พลเอกประยุทธ์ได้สำนึก โดย 8 ปีที่ผ่านมาเป็นความล้มเหลวหรือเป็นผลงานชิ้นโบว์ดำของพลเอกประยุทธ์อย่างปฏิเสธไม่ได้มี 10 เรื่องดังนี้
1. เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ต่ำสุด โดยเศรษฐกิจไทยตลอด 8 ปีขยายตัวโดยเฉลี่ยเพียง 1% กว่าๆเท่านั้น ซึ่งเป็นการขยายตัวเศรษฐกิจที่ต่ำที่สุดในทุกรัฐบาลที่ผ่านมาเลย ทั้งๆที่พลเอกประยุทธ์ใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลและใช้เงินมากที่สุดมากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา โดยใช้เงินงบประมาณไปแล้วมากกว่า 20 ล้านล้านบาท
2. หนี้ประเทศ หรือ หนี้สาธารณะของไทยสูงสุด จะทะลุเกิน 10 ล้านล้านบาทในไม่ช้า สาเหตุมาจากการแจกเงินสะเปะสะปะใช้เงินแล้วเศรษฐกิจไม่ขยายตัว ใช้จ่ายเงินในงบทางการทหารที่เพิ่มมาตลอด และ ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มากซึ่งไม่ได้สร้างผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยเลย
3. หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงสุด เกือบถึง 15 ล้านล้านบาทแล้ว เพราะครัวเรือนไม่มีรายได้จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำมาตลอด ประชาชนจึงต้องสร้างหนี้กันมากขึ้น ทั้งนี้ยังไม่รวมหนี้นอกระบบที่สูงขึ้นมากด้วย
4. หนี้เสี่ยงจะเสียสูงที่สุด ถึง 2 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมหนี้เสี่ยงจะเสียในธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ซึ่งหากรวมจะยิ่งทำให้หนี้เสียเพิ่มขึ้นอีกมาก หนี้เสี่ยงจะเสียนี้ จะกลายเป็นหนี้เสียในที่สุดถ้าพลเอกประยุทธ์ยังบริหารเศรษฐกิจของประเทศแบบนี้
5. คนไทยจนมากที่สุดถึง 20 ล้านคน ตามที่พลเอกประยุทธ์จะแจกบัตรคนจนรอบใหม่ คนจนไม่ได้หมดไปเหมือนที่เคยคุยโวไว้ ทั้งนี้คนจนของไทยเพิ่มขึ้นมาตลอดทุกปี ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ทำการปฏิวัติเข้ามาแล้ว ไม่ใช่เพิ่มขึ้นเฉพาะช่วงวิกฤตไวรัสโควิด โดยเวิร์ลแบงค์แถลงว่าช่วงปี 2558-2561 ประเทศไทยมีคนจนเพิ่มขึ้น 1.85 ล้านคน และมาซ้ำเติมมีคนจนเพิ่มขึ้นจากช่วงวิกฤตการณ์ไวรัสโควิดอีก
6. ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำมากที่สุด จนขึ้นอันดับ 1 ของโลก คนไทย 1 % มีทรัพย์สินรวมกันเท่ากับ 66.9% ของทรัพย์สินรวมของทั้งประเทศ ในสมัยพลเอกประยุทธ์นี้
7. คนไทยเจ็บและตายมากที่สุด จากการบริหารจัดการวิกฤตการณ์ไวรัสโควิดที่ผิดพลาดของพลเอกประยุทธ์ ขนาดทุกวันนี้คนเจ็บคนตายก็มีเพิ่มขึ้นทุกวัน
8. การศึกษาของไทยตกต่ำที่สุด เกือบรั้งท้ายของกลุ่มประเทศในอาเซียน อีกทั้งความสามารถแข่งขันของไทยได้ลดลงทุกด้าน
9. มีการทำร้ายและจับกุมผู้เห็นต่างมากที่สุด ตั้งแต่หลังการปฏิวัติจนมาถึงหลังการเลือกตั้งแล้ว ขนาด นายพิชัย นริพทะพันธ์ุ ที่วิจารณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่และก็ย่ำแย่จริง ยังถูกเรียกตัวถึง 12 ครั้ง และพลเอกประยุทธ์ยังนำมาพูดเป็นเรื่องเล่น ทั้งที่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
10. การทุจริตมากสุด จากดัชนีวัดความโปร่งใสนานาชาติ ปรากฏว่า ประเทศไทยมีอันดับการคอรัปชั่นแย่ลงมาตลอด 5 ปีติดต่อกัน จากอันดับที่ 96 ในปี 2560 ลงมาอันดับที่ 99 ปี 2561 ลงมาอันดับที่ 101 ในปี 2562 ลงมาอันดับที่ 104 ในปี 2563 จนลงมาถึงอันดับที่ 110 ในปี 2564
นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ยังมีอีกหลายเรื่องที่พลเอกประยุทธ์บริหารประเทศล้มเหลวจนประชาชนเดือดร้อน ผสานกับ สถานการณ์ โควิด-19 ที่พิสูจน์ถึงความสามารถที่จำกัด ของ พลเอก ประยุทธ์ และ พิสูจน์ความล้มเหลวของระบบ ที่ไม่ได้สะท้อนความต้องการประชาชน แทนที่จะทำให้ประเทศเพิ่มเสถียรภาพแต่กลับอ่อนแอลงอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ประเทศไทยจะกลับมายืนอย่างสง่าได้ ต้องรีบเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนผู้นำ และพัฒนาระบบการเมือง ที่สะท้อนถึงยุคสมัยและตอบโจทย์ของประชาชนให้ได้ทุกภาคส่วน