ไม่พบผลการค้นหา
อนาคตใหม่ ปราศรัยใหญ่เวทีสุดท้ายก่อนวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง 24 มี.ค. ชวนยุติ 3 มรดกบาป การเมืองแบบเก่า สร้างมาตรฐานการเมืองแบบใหม่ เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง 'ธนาธร' ประกาศขอเป็นนายกฯ ให้คนทุกกลุ่ม

ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์กีฬาไทยญี่ปุ่นดินแดง พรรคอนาคตใหม่ จัดปราศรัยใหญ่เวทีสุดท้ายก่อนเข้าคูหา 24 มี.ค. โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วมเต็มความจุของอาคารคาดว่าไม่ต่ำกว่า 8,000 คน  

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นำทีมผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ตัวแทนผู้สมัคร ส.ส. จากทั่วประเทศ และตัวแทนผู้สมัคร ส.ส. หลากหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มความหลากหลายทางเพศ, ผู้พิการ, ชาติพันธุ์, และปีกแรงงาน ขึ้นปราศรัยบนเวที

น.ส.พรรณิการ์ วานิช กล่าวว่า การที่มีกลุ่มผู้สูงอายุเข้ามาร่วมฟังปราศรัยใหญ่ของพรรคอนาคตใหม่ เป็นข้อพิสูจน์ว่าไม่ใช่แค่กลุ่มวัยรุ่นอย่างเดียวที่สนับสนุนพรรค แต่เป็นคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งการปราศรัยครั้งนี้มีล่ามภาษามือ และพื้นที่ว่างในอาคารเพื่อรับรองกลุ่มคนทุพพลภาพทุกคน ถือเป็นการปราศรัยครั้งที่พิเศษที่สุดตั้งแต่เคยมีมาในประเทศไทย

3 ยุติเพื่ออนาคต

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีไว้เพื่อ 3 ยุติ

ยุติแรก คือการหยุดการสืบทอดอำนาจของคสช. สกัดให้พรรคพลังประชารัฐไม่ได้เป็นรัฐบาล รวมถึงหยุดมรดกบาปที่ คสช.เขียนไว้ให้กับเราด้วย จะมีการทบทวนกฎหมายต่างๆ ที่คสช. เขียนขึ้นมา และให้ประชาชนเป็นคนร่างรัฐธรรมนูญใหม่ด้วยกัน

ยุติที่สอง คือการยุติเรื่องรัฐประหาร สิ่งนี้ไม่ใช่เครื่องมือในการแก้ไข พัฒนา สร้างความเจริญให้ประเทศ แต่เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไม่ก้าวไปไหน

ยุติที่สาม คือ ยุติการเมืองแบบเก่า เรื่องระบบอุปถัมภ์ เครือข่ายอิทธิพล ร่วมสร้างมาตรฐานการเมืองแบบใหม่ เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง

พรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้นเพื่อต้องการหลอมรวมประชาชนเข้าด้วยกัน แล้วประชาชนจะเดินหน้าต่อสู้กันในโครงสร้างใหญ่ๆ อำนาจอยุติธรรม เผด็จการ ผูกขาด คืนอำนาจสู่ท้องถิ่น เพื่อให้คนไทยเท่าเทียมกัน พาไทยเท่าทันโลก ส่วนโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง มักได้ยินว่าเลือกกันในทางยุทธศาสตร์ แต่สำหรับอนาคตใหม่ ไม่มีคำว่าโหวตในทางยุทธศาสตร์​ แต่จะโหวตเพื่ออนาคต เพื่อความหวัง เพื่อการเปลี่ยนแปลง และให้ประเทศไทยเดินหน้า

อนาคตใหม่ไม่ใช่แค่หยุดอำนาจของคสช. แต่ยังมีภารกิจที่สำคัญ รื้อฟื้นความเชื่อมั่นแบบประชาธิปไตย ที่ถูกทำลายมาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ให้ประชาชนทุกคนเข้ามารวมกันและเชื่อมั่นกับการเมืองแบบใหม่ แบบประชาธิปไตย ถ้าเราเชื่อแบบนั้นก็จะปิดประตูเผด็จการ ปิดประตูรัฐประหารแน่นอน

นายปิยบุตร กล่าวว่า หากอยากให้ประเทศไทยเปลี่ยนไป 24 มี.ค. นี้ ต้องเลือกคนใหม่ เลือกพรรคใหม่ เลือกพรรคอนาคตใหม่ เพ��่อเดินหน้าไปสู่อนาคตแบบใหม่ด้วยกัน ให้พรรคอนาคตใหม่ได้ ส.ส.ครบทุกคน รวมถึงของแถม อ.ปิยบุตร ไปแก้รัฐธรรมนูญด้วย และของแถมชิ้นใหญ่ คือธนาธร เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ แห่งการเปลี่ยนแปลง แห่งความหวัง แห่งอนาคตใหม่

ปิดอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ

นายปิยบุตร ระบุว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องเป็นตัวแทนของราษฎร ไม่ใช่ผู้แทนของเผด็จการนั่นคือพันธกิจที่ต้องร่วมกันผนึกกำลัง ไม่ให้คสช. สืบทอดอำนาจ หากส.ส.ร่วมมือกัน เชื่อว่าจะไม่มีการสืบทอดอำนาจ

"อยากให้ตั้งภารกิจร่วมกันว่า จะช่วยกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจริงหรือไม่ ถ้าใช่ก็ต้องร่วมกันสกัดกั้นอำนาจของคสช. สกัดกั้นไม่ให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ ส่วนจะแบ่งว่าใครเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง" 

ปิยบุตร กล่าวว่า การตั้งรัฐบาลโดยไม่ใช่พรรคที่ชนะอันดับหนึ่งนั้น ก็ถือเป็นการทำลายธรรมเนียมการปกครองในระบอบรัฐสภา ขอยืนยันหลักการที่ผ่านมาเมื่อปี 2535 เราต่อสู้เสียเลือดเนื้อมามากมาย เพื่อจะบอกว่านายกฯ ต้องเป็นส.ส.และต้องเปิดโอกาสให้พรรคอันดับ 1 ได้จัดตั้งรัฐบาล

หมดเวลาประยุทธ์

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เชื่อว่า ประเทศจะสงบสุขได้ต้อง 3 จบ 1. จบลุงตู่ 2. จบพลังประชารัฐ และ 3. จบส.ว. สงบแน่นอน

ดังนั้นพรรคใดที่ไม่โหวตรับรองนายกฯ ที่มาจากเสียงข้างมาก พรรคไหนที่เปิดโอกาสให้ ส.ว. มีโอกาสเลือกนายกฯ ได้ หมายความว่า พรรคนั้นจะนำสังคมไปสู่ความวุ่นวาย

"พวกเรามั่นใจเต็มที่ว่า พรรคอนาคตใหม่จะได้ส.ส.ทั่วทุกภูมิภาค เราได้นำเสนอทางออกให้ประเทศไทยออกจากความขัดแย้งอย่างสันติ ถ้าส.ว.เข้ามามีบทบาทในการเลือกนายกฯเมื่อไร จะไม่นำไปสู่ความสงบสุขและจะเป็นต้นตอของความขัดแย้งแน่นอน" นายธนาธรกล่าว

ขอเป็นนายกฯ ให้ทุกคน

ธนาธร กล่าวว่า อีกไม่กี่ชั่วโมง ก็จะถึงวันเวลาที่จะตัดสินอนาคตของประเทศไทย มีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวดี คือในรายชื่อแคนดิดเดตนายกทุกพรรคการเมือง ไม่มีชื่อ "ประวิตร วงษ์สุวรรณ" อยู่ในนั้น แต่ข่าวร้ายก็คือ ยังมีรายชื่อของคุณลุงเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่ 

นายธนาธร ได้เล่าเรื่องราวการทำงานในช่วงที่ผ่านมา ประสบการณ์การได้เดินทางไปยังที่ต่างๆ ทำให้ได้เห็นศักยภาพของคนแต่ละท้องถิ่น หากคนกลุ่มนี้ได้รับโอกาส อำนาจ และงบประมาณที่เหมาะสม ก็จะทำให้ประเทศไปไกลได้กว่านี้อีกมาก รวมถึงทำให้คุณภาพชีวิตของคนทุกกลุ่มดีขึ้นด้วย 

คนไทยทุกคนเท่าเทียมกัน คือ เราไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่เชื่อว่าเราสามารถสร้างสังคมที่เราทุกคนเท่ากันในสิทธิ์และโอกาสได้ ส่วนประเทศไทยเท่าทันโลก คือการอยากเห็นประเทศไทยมีบริการสาธารณะเท่าสากล เศรษฐกิจก้าวหน้า สามารถเผชิญหน้าโลกาภิวัฒน์อย่างไม่กลัว และมีศักยภาพในเวทีโลกอย่างไม่อายใคร ซึ่งการจะจัดการปัญหาในประเทศไทยเหล่านี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำทั้ง 2 ส่วนพร้อมกัน เช่น การจะจัดการปัญหาทุนผูกขาด ก็ต้องจัดการเรื่องระบบอุปถัมภ์ด้วย หรือการจะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากภาษี ก็ต้องยุติระบบราชการ รวมถึง จะทำให้ประชาธิปไตยยั่งยืน ก็ต้องปฏิรูปกองทัพ เพราะเชื่อว่าการรัฐประหารไม่ใช่ทางลัดในการสร้างสังคมที่ดี

"ธนาธรจะไม่เป็นนายกฯ ให้คนเสื้อแดง ธนาธรจะไม่เป็นนายกฯ ให้คนเสื้อเหลือง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทุกคน" 

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า หมดเวลาแล้วกับสังคมที่เหลื่อมล้ำ และไม่มีอนาคตสำหรับคนรุ่นใหม่ 

"ถึงเวลาแล้ว ที่พอแล้วกับสังคมที่รวยกระจุกจนกระจาย การพัฒนาที่เหลื่อมล้ำ การที่มีคนเรียกร้องประชาธิปไตยถูกยิงตายโดยที่ไม่ใครรับผิดชอบ การศึกษาที่ล้มเหลวพาประเทศไทยไปไม่ถึงไหน ผมไม่อยากส่งสังคมแบบนี้ให้กับลูกสาวของผม และไม่ส่งสังคมแบบนี้ให้ลูกชายของคุณ" ธนาธรกล่าว